วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไทยสู่ Dental Wellness Hub ระดับสากล

ศูนย์รากฟันเทียมเซรามิกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก

BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย

เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไทยสู่ Dental Wellness Hub ระดับสากล

ผสานเทคโนโลยีทันตกรรมกับศาสตร์ความงามอย่างลงตัว

        บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย จำกัด บริษัทด้านการปลูกรากฟันเทียมและทันตกรรมความงามจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ผนึกกำลังเดินหน้าตั้ง “ศูนย์รากฟันเทียมเซรามิกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก ที่ได้รับการรับรองโดย บริษัท Straumann” ชูแนวคิด Aesthetic Dentistry ผสานเทคโนโลยีทันตกรรมและศาสตร์ความงาม มุ่งยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพช่องปากแบบองค์รวม พร้อมสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้าน Wellness ระดับโลก ตลอดจนผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Dental Wellness Hub Thailand โดยมี นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Pedro Zwahlen, Ambassador of the Swiss Confederation to Thailand) นาย แพทริก โลห์ สมาชิกคณะกรรมการบริหาร รองประธานบริหาร และหัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group (Mr. Patrick Loh, Member of Executive Management Board, Executive Vice President and Head of Asia Pacific, Straumann Group) ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล รองผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นางสาว ศิริพร ไทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางคลินิก นางสาว จิตรา สังฆกิจ Country Manager บริษัท Straumann Group ประเทศไทย และ นาย ลิป แทน หัวหน้าฝ่ายการเงิน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group (Mr. Lip Tan, Head of Finance Shared Services of Straumann Group APAC, Straumann Group) เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568

           นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบัน แนวคิดเรื่อง “สุขภาพที่ดี” ได้รับการขยายความมากกว่าการไม่มีโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วย หากแต่ครอบคลุมถึงการมีสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ การส่งเสริมสุขภาพจึงต้องอาศัยการดูแลแบบองค์รวม อันประกอบด้วยการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การมีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับสุขภาพในด้านที่มักถูกมองข้าม เช่น สุขภาพช่องปาก ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสุขภาวะโดยรวม ทั้งในฐานะด่านแรกของระบบย่อยอาหาร และในฐานะตัวสะท้อนของความสมดุลภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจในตนเอง และคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชน สุขภาพช่องปากที่ดีจึงมิใช่เพียงเรื่องของการดูแลเฉพาะจุด หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุขภาพที่มีความเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ที่ดีในทุก ๆ ด้าน

        “ด้วยวิสัยทัศน์ของ BDMS Wellness Clinic ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญกับการดูแลสุขภาพองค์รวม เราจึงได้จับมือกับ Straumann Group ประเทศไทย เพื่อผสานเทคโนโลยีรากฟันเทียมเซรามิกซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติ ภายใต้การผลิตของบริษัท Straumann เข้ากับศาสตร์ทันตกรรมความงาม ที่ดำเนินการภายใต้ความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านทันตกรรมความงาม ที่ BDMS Wellness Clinic เพื่อดูแลทั้งสุขภาพช่องปากพร้อมส่งเสริมสุขภาพองค์รวมและความมั่นใจให้กับผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมารับบริการด้านทันตกรรม ณ BDMS Wellness Clinic”

         “ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ที่ร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของเราสู่เป้าหมายระดับประเทศในการเป็น Dental Wellness Hub Thailand เพื่อส่งมอบสุขภาพช่องปากที่ดีที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสให้กับผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยว ณ ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Dental Wellness Tourism เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็น Wellness Hub Thailand จุดหมายปลายทางด้านสุขภาพเชิงป้องกันแบบองค์รวมที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับสากล ซึ่งรวมถึงประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมด้วย”

         นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย มีพันธกิจในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และไทยอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนธุรกิจสวิสที่เข้ามาลงทุนในไทยผ่านการให้ข้อมูล การสร้างเครือข่าย และการประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนไทย สถานทูตมุ่งเน้นการส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพ นวัตกรรม และความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศ” 

            นาย แพทริก โลห์ สมาชิกคณะกรรมการบริหาร รองประธานบริหาร และหัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group กล่าวว่า “Straumann Group มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดตั้งศูนย์รากฟันเทียม เซรามิก ณ BDMS Wellness Clinic ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับศาสตร์ความงามในการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้ง Straumann Group และ BDMS Wellness Clinic ในการส่งเสริมศักยภาพของทันตแพทย์ไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก และร่วมกันสร้างอนาคตแห่งวงการทันตกรรมทั้งในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาค” 

            เพราะรอยยิ้มของคุณคือแพชชันของเรา: เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการบูรณะรอยยิ้มด้วยรากฟันเทียมเซรามิก เทคโนโลยีล่าสุดที่ผสานศาสตร์แห่งความงามเข้ากับความชำนาญการทางทันตกรรมอย่างลงตัว

             ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล รองผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก กล่าวว่า คลินิกทันตกรรมของ BDMS Wellness Clinic มุ่งมั่นส่งมอบบริการด้านทันตกรรมความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยความตั้งใจที่จะมอบทั้งสุขภาพช่องปากที่ดีและความมั่นใจให้กับผู้รับบริการทุกท่าน โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่ดีรับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันคือ ‘รากฟันเทียมเซรามิก (Zi Ceramic Implant)’ จากแบรนด์ Straumann บริษัทด้านการปลูกรากฟันเทียมและทันตกรรมความงามจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยวัสดุไบโอเซรามิก (Zirconia) ของ Straumann มีจุดเด่นด้านความแข็งแรง ทนทาน และเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในช่องปาก จึงให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว

          นอกจากนี้ รากฟันเทียมเซรามิกยังมีคุณสมบัติด้านความงามที่โดดเด่น ด้วยเฉดสีที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากกว่ารากฟันเทียมประเภทโลหะ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบูรณะฟันบริเวณด้านหน้า อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการแพ้โลหะ ซึ่งเป็นข้อกังวลที่อาจพบได้ในรากฟันเทียมทั่วไป ทำให้เป็นทางเลือกที่ทั้งปลอดภัยแก่ผู้รับบริการทุกคน 

“การเลือกใช้รากฟันเทียมเซรามิกจาก Straumann ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ BDMS Wellness Clinic ในการมอบทางเลือกด้านการบริการการดูแลช่องปากให้กับผู้รับบริการ โดยมุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการใช้งานของฟันควบคู่ไปกับการส่งเสริมภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของผู้รับบริการ ผ่านรอยยิ้มที่มั่นใจ สวยงาม และเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง” ทันตแพทย์หญิงสุชาดา กล่าวเพิ่มเติม

           นอกจากนี้ นางสาว จิตรา สังฆกิจ Country Manager บริษัท Straumann Group ประเทศไทย ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Straumann Group และรากฟันเทียมเซรามิกในงาน โดย Straumann Group เป็นบริษัทชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริษัทมีความชำนาญการการในการวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ทางทันตกรรมในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นรากฟันเทียม เครื่องมือจัดฟันใส วัสดุชีวภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Straumann Group มีวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยยึดมั่นในเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานการดูแลผู้รับบริการระดับสากล 

            ในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) Straumann Group ได้เข้าซื้อหุ้น 49% ของบริษัท Neodent จากประเทศบราซิล และในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด ทำให้ Neodent เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Straumann Group อย่างเต็มตัว ปัจจุบัน Neodent มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 95 ประเทศทั่วโลก

          ในปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) Neodent ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด “Zi Ceramic Implant” ระบบรากฟันเทียมเซรามิก ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ป่วยที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามและสุขภาพช่องปาก รากฟันเทียม Zi Ceramic ผลิตจากเซอร์โคเนียคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรง สีขาวคล้ายรากฟันธรรมชาติ และความเข้ากันได้ดีเยี่ยมกับเนื้อเยื่อในช่องปาก ด้วยการออกแบบรูปทรงเรียวที่เลียนแบบรากฟันธรรมชาติ จึงช่วยให้การรักษาและการฟื้นฟูรอยยิ้มเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

             ความร่วมมือระหว่าง BDMS Wellness Clinic และบริษัท Straumann Group ประเทศไทย จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการรวมพลังเป็น #TeamThailand เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก ตลอดจนตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพบริการด้านสุขภาพและทันตกรรมของไทยในระดับมาตรฐานสากล เพื่อมุ่งสู่การส่งมอบการดูแลสุขภาพองค์รวมที่ยั่งยืนให้แก่ผู้คนทั่วโลก

             ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรากฟันเทียมเซรามิกและบริการทันตกรรมด้าน Aesthetic Dentistry ของ BDMS Wellness Clinic ได้ที่ https://www.bdmswellness.com/



วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568

TED Youth TED Youth Startup Championship 2025 ครั้งที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

TED Youth TED Youth Startup Championship 2025 ครั้งที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  

เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม ณ จังหวัดขอนแก่น

           กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) เดินหน้าค้นหาสุดยอดนวัตกรรม สานฝันผู้ประกอบการสู่เส้นทางสตาร์ทอัพ ภายใต้กิจกรรม “TED Youth Startup Championship 2025” เวทีแข่งขันนวัตกรรมของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมที่มาพร้อมไอเดียสุดล้ำพร้อมต่อยอดไอเดียให้เกิดขึ้นจริง! โดยกิจกรรมมาในรูปแบบ Roadshow เดินทางไปจัดกิจกรรมถึง 4 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค โดยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัดขอนแก่น โดยมี คุณไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย  ผู้บริหาร และผู้แทนจาก TED Fellow ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้การต้อนรับน้อง ๆ นิสิตนักศึกษา และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก


          ภายในงาน คุณสาวิตรี กระจ่างศิวาลัย หัวหน้างานพัฒนาธุรกิจ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ TED Fund ได้ร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ “TED Fund Journey : How to Support Youth Startups to a Championship?” ต่อด้วยกิจกรรมไฮไลท์กับการนำเสนอโครงการ (Pitching) ของน้องๆ ผู้ประกอบการที่ยื่นขอรับการสนับสนุนทุนในโครงการยุววิสาหกิจเริ่มต้น (TED Youth Startup) เพื่อชิงสุดยอดนวัตกรรมประจำภูมิภาค จากตัวแทนของแต่ละเครือข่ายร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ (TED Fellow) ที่ได้ดำเนินการในปี 2568 จำนวน 7 ทีม โดยมี คุณไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund), ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย นวัตกรรม บริการ วิชาการ และสื่อสารองค์กร คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น, คุณณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท เน็กซ์เจน เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการตัดสินครั้งนี้


                สำหรับผลการแข่งขันสุดยอดนวัตกรรม TED Youth Startup Championship 2025 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ทีม CARNE AI: ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อประเมินเกรดเนื้อวัวเนื้อพรีเมียม จาก TED Fellow หน่วยวิจัยนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม Mild Mousse: ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศรีษะแบบไม่ใช้น้ำด้วยไมเซลลาเทคโนโลยี จาก TED Fellow โครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม Sisteris: สมุนไพรไทยผสมโพรไบโอติกส์ สำหรับบำรุงระบบภายในผู้หญิง จาก TED Fellow อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรางวัล Popular Vote ทีม ซาวาส: สุราชุมชนจากสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย จาก TED Fellow คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 7 ทีม โดยทีมที่ได้รับทั้ง 3 รางวัลนี้ ยังได้รับสิทธิ์ Fast-track ในการเข้าไปนำเสนอนวัตกรรมในรอบถัดไป เพื่อชิงทุนมูลค่า 1,500,000 บาท อีกด้วย

           พร้อมด้วยกิจกรรมด้วยการบรรยายพิเศษ Exclusive Sharing จาก คุณณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ - ผู้ก่อตั้ง บริษัท เน็กซ์เจน เอ็ดดูเคชั่น จำกัด และนักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว มาแชร์ประสบการณ์และสร้างแรงงบันดาลใจในหัวข้อ “From Idea to Innovation – Start Small, Dream Big” อีกด้วย


            ปิดท้ายกิจกรรม “TED Youth Startup Championship 2025” ครั้งที่ 4 ภาคกลาง วันที่ 30 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ที่ได้บุคคลผู้ทรงพลังแห่งปี คุณซีเค เจิง CEO of Fastwork Technologies มาร่วมบรรยายพิเศษ เพื่อปลุกพลังความเป็นผู้ประกอบการสาย Technology & Innovation และการประกวดสุดยอด จาก TED Fellow ภาคกลางกว่า 20 ทีม งานนี้เข้าร่วมงานฟรี! สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ดูรายละเอียดได้ทาง Facebook : TED Fund


วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2568

เปิดประสบการณ์การดูแลสุขภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟูแบบองค์รวม ที่ Greenbell Wellness Center

เปิดประสบการณ์การดูแลสุขภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟูแบบองค์รวม ที่ Greenbell Wellness Center 

ศูนย์สุขภาพและความงามแห่งใหม่ เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน

      “ความสุข” อาจจะหาซื้อไม่ได้ แต่สามารถสร้างได้ ถ้าคุณมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ที่ “Greenbell Wellness Center” ศูนย์บริการสุขภาพแบบองค์รวมแห่งใหม่ใจกลางเมือง ให้บริการดูแลสุขภาพ (Body & Soul) และความงาม (Beauty) แบบองค์รวม ช่วยคุณสร้างความสุขได้ในแบบของคุณเอง ภายใต้แนวคิด The First Wealth is Health การมีสุขภาพดีคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต


       Greenbell Wellness Center บริหารงานโดย คุณสุชาดา ชาญเศรษฐิกุล นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งวงการทันตกรรม ผู้นำเข้าอุปกรณ์ทางทันตกรรมรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งปัจจุบันวางมือและหันมาเริ่มต้นธุรกิจด้านสุขภาพความงาม เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเช่นเดียวกับเธอ


        คุณสุชาดา ชาญเศรษฐิกุล กล่าวว่า “ดิฉันทำงานอยู่ในวงการทันตกรรมมา 40 กว่าปี จนอายุใกล้ 70 ก็รีไทร์ตัวเอง พอไม่ได้ทำงานก็เริ่มเครียด เป็นโรคภูมิแพ้ เลยอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้สูงอายุ” โดยเริ่มต้นจาก คลินิกกายภาพบำบัด Greenbell Medical Clinic ที่ให้บริการดูแลนักกีฬา ผู้สูงอายุ และคนทำงานที่มีปัญหาสุขภาพ โดยตรวจหาสาเหตุของอาการปวด การบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นกีฬา อาการปวดจากการทำงานหรือออฟฟิศซินโดรม โดยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดที่มากประสบการณ์ ด้วยอุปกรณ์ทันสมัย เช่น เทคนิคการบำบัดด้วยมือ บำบัดรักษาหลังการผ่าตัด ฝึกความยืดหยุ่น บำบัดรักษาผู้ป่วยไขสันหลัง ฟื้นฟูระบบประสาทและสมอง เป็นต้น


        และเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน คุณสุชาดาจึงต่อยอดธุรกิจดูแลสุขภาพแบบองค์รวม คือ Green Bell Wellness Center คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูแบบครบวงจร (Anti-Aging and Regenerative Clinic) เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพเชิงลึก และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยมุ่งเน้นการชะลอความเสื่อมระดับเซลล์ ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้บริการทางด้านสุขภาพและความงามครบวงจร ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย เน้นความปลอดภัย ด้วยบริการต่างๆ ครบครัน อาทิ VITAMIN IV DRIP, MESO THERAPY, BOTOX, FILLER, ULTRA HIFU, THERMAL RF, MICRONEEDLE RF, PICO LASER เป็นต้น

         นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึก เพื่อประเมินสภาวะสุขภาพโดยรวม ค้นหาความเสี่ยงหรือโรคที่ซ่อนอยู่ เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลและรักษาที่เหมาะสมได้ และยังมีโปรแกรมการดูแลสุขภาพจิตเฉพาะบุคคล เพื่อการสร้างสมดุล ระหว่างจิตใจและร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง


        แม้ว่า Greenbell Wellness Center จะเป็นน้องใหม่ทางด้านสุขภาพความงาม แต่ด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงทางการแพทย์มากว่า 40 ปี บวกวิสัยทัศน์ที่มองเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน คุณสุชาดาจึงตั้งใจทำให้ Greenbell Wellness Center เป็นศูนย์สุขภาพและความงามระดับพรีเมี่ยม ที่ผสานเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยเข้ากับศาสตร์ชะลอวัย โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ที่พร้อมดูแลคุณในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความงามแบบครบวงจรอย่างแท้จริง

        วันนี้ Greenbell Medical Clinic และ Greenbell Wellness Center พร้อมให้บริการด้านสุขภาพ ความงาม และกายภาพบำบัด ครบจบในที่เดียว ด้วยการบริการระดับพรีเมี่ยม ดูแลเอาใจใส่คุณตลอดการรักษาดุจคนในครอบครัว


“ที่กรีนเบลล์ เราเน้นเรื่องการป้องกันมากกว่าการรักษา เรามีความเชื่อมั่นว่าคนเราจะมีความสุขที่สมบูรณ์จริงๆ ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ พวกเราโชคดีที่อยู่ในยุคที่มีอุปกรณ์และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเจ็บหลัง เจ็บเข่า สามารถรักษาได้ ดังนั้นถ้ามีเวลาและความพร้อม ดิฉันอยากให้ทุกคนเข้ามาดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจก่อนที่จะป่วยนะคะ” คุณสุชาดากล่าวทิ้งท้าย 

Greenbell Wellness Center ชั้น 5 และ Greenbell Medical Clinic ชั้น 6 อาคาร Premium Accord Tower ถ.พระราม 6 ซ.7 (รองเมือง 4) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-20.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 062-738-4148, 02- 215-3262



วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568

สจล. เปิด"ศูนย์วิเคราะห์โครงสร้างรับแรงแผ่นดินไหว" (K-EQSAN) ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาคารทั่วประเทศ

สจล. เปิด"ศูนย์วิเคราะห์โครงสร้างรับแรงแผ่นดินไหว" (K-EQSAN) 

ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาคารทั่วประเทศ

       สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ประกาศเปิดตัว ศูนย์วิเคราะห์โครงสร้างรับแรงแผ่นดินไหว (KMITL Earthquake Structural Analysis Nexus หรือ K-EQSAN) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและวิเคราะห์โครงสร้างอาคารเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารทั่วประเทศ แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ริกเตอร์ในเมียนมาเมื่อปี พ.ศ. 2568 ที่ส่งผลกระทบมายังกรุงเทพฯ ทำให้อาคารหลายแห่งสั่นสะเทือนและเกิดรอยร้าวสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับโครงสร้างอาคารในประเทศ

         รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ K-EQSAN สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารภายใต้แรงแผ่นดินไหว ซึ่งจะช่วยลดความตื่นตระหนกของผู้ใช้งานอาคารและส่งเสริมการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้ง ภายหลังจากแผ่นดินไหว ผู้ใช้งานอาคารก็ยังวิตกกังวลต่อกับรอยร้าวหลากหลายประเภทที่เกิดขึ้นกับตัวอาคาร ซึ่งถึงแม้ว่า รอยร้าวถ้าไม่ได้เกิดขึ้นกับโครงสร้างหลักนั้น จะไม่จำเป็นต้องกังวลมาก แต่ความไม่แน่ใจของผู้ใช้อาคารก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้น สจล. ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านโครงสร้างภายใต้แรงแผ่นดินไหวโดยตรง จะเป็น ศูนย์กลางด้านการวิเคราะห์โครงสร้างภายใต้คลื่นแผ่นดินไหว เสนอแนวทางการป้องกัน รวมทั้งการเสริมกำลังให้กับตัวอาคาร และถ่ายทอดองค์ความรู้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมไทยได้ในวงกว้าง

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฎฐ์ดนัย สินสมุทรผดุง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สจล. กล่าวถึง หลักการออกแบบโครงสร้างรับแรงแผ่นดินไหวว่า โครงสร้างภายใต้แรงแผ่นดินไหวนั้น ย่อมเกิดความให้เสียหายได้ แต่ต้องไม่พังทลาย พร้อมยกตัวอย่าง ความสำคัญของความเหนียว (Ductility) ของโครงสร้าง ซึ่งจะสามารถทำให้ผู้ใช้งานอาคารมีเวลาในการหลบหนีออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น ถ้าผู้ใช้งานอาคารมีความเชื่อมั่นว่า ภายใต้แรงแผ่นดินไหวอาคารอาจจะมีความเสียหายแต่ไม่พังทลายทันที ก็จะสามารถปฏิบัติตัวภายใต้สถานการณ์แผ่นดินไหวและสามารถหลบหนีออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย ทัั้งนี้ การที่จะสร้างความมั่นใจดังกล่าวนั้น จริง ๆ แล้วมีองค์ความรู้และนวัตกรรมอยู่หลายประเภทที่สามารถทำได้ เช่น การเพิ่มความเหนียว (Ductility) ของอาคารด้วยเหล็กปลอก, ชิ้นส่วนสลายพลังงาน (Damper) และ ระบบแยกฐานอาคาร (Isolator) ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าวยังมีราคาที่สูง อีกทั้ง การติดตั้งจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างชัดเจนเพื่อให้นวัตกรรมดังกล่าวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         ดังนั้น ศูนย์ K-EQSAN จะรับบทบาทในการวิเคราะห์อาคารด้วยคลื่นแผ่นดินไหวโดยตรง ผู้ที่สนใจสามารถนำแบบก่อสร้างอาคารมาให้ศูนย์วิเคราะห์ได้ว่า โครงสร้างจะสามารถรับแรงแผ่นดินไหวในอนาคตได้หรือไม่ และถ้าอาคารมีโอกาสที่จะเสียหายก็จะสามารถแนะนำแนวทางและตำแหน่งของการเสริมกำลังให้ได้ นอกจากนี้ สำหรับอาคารที่มีอายุมากและไม่มีแบบก่อสร้าง ทางศูนย์ก็สามารถจัดหาทีมงานในการสำรวจโครงสร้างเพื่อสร้างแบบจำลองได้เช่นเดียวกัน

           ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุมาศ ไทรงาม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวถึง ในปัจจุบัน นวัตกรรมป้องกันแผ่นดินไหว ยังมีราคาที่สูง ดังนั้น สจล. จึง ได้พัฒนานวัตกรรมดังกล่าวจากวัสดุในประเทศซึ่งรวมไปถึงวัสดุจากธรรมชาติ เพื่อให้นวัตกรรมดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์ภายในประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น ชิ้นส่วนสลายพลังงานจากแรงเสียดทาน (Friction Damper) ซึ่งผลิตโดยวัสดุในประเทศ, การเสริมกำลังของเสาเพื่อรับแรงแผ่นดินไหวโดยใช้เส้นใยธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงตัวอย่างผลการวิเคราะห์โครงสร้างด้วยคลื่นแผ่นดินไหว ซึ่งผลการวิเคราะห์สามารถระบุตำแหน่งของความเสียหายในอาคารได้ และ ยังสามารถทำการทดลองเสริมกำลังด้วยชิ้นส่วนสลายพลังงานลงไปแบบจำลองอาคารเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของชิ้นส่วนได้อีกด้วย ด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีเหล่านี้ ศูนย์ K-EQSAN สจล. มุ่งหวังสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของอาคาร ผู้ใช้อาคาร และพร้อมให้คำปรึกษาแนวทางการเสริมกำลังโครงสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ จากที่กล่าวมาทั้งหมดอาจสรุปวิธีการป้องกันแก้ไขได้ 3 ขั้นตอน คือ

1. การออกแบบการก่อสร้างป้องกันอาคารรองรับแรงสั่นสะเทือน โดยมีผลงานวิจัยที่ชื่อว่า ตัวสลายพลังงาน (แดมเปอร์) ชนิดแรงเสียดทานด้วยวัสดุทางธรรมชาติเพื่อความยั่งยืน (Friction Dampers using Natural Sustainable Material) ซึ่งคุณสมบัติในการเพิ่มค่าความหน่วง (damping ration) เพื่อสลายพลังงานแผ่นดินไหวที่กระทำต่ออาคาร มีค่าสัมประสิทธิ์เสียดทานคงที่ประมาณ 0.50-0.75 มีความคงทนต่อการใช้งาน และในกรณีที่ถูกใช้งานจากแรงแผ่นดินไหวกระทำซ้ำๆ สามารถเปลี่ยนแผ่นแรงเสียดทาน (friction pad) ได้ง่าย

2. การออกแบบเสริมกำลังอาคาร โดยมีผลงานวิจัยเรื่อง “การเสริมกําลังโครงสร้างคอนกรีตด้วยเส้นใยธรรมชาติ (Strengthening concrete structure with fiber jacketing) ซึ่งคอนกรีตด้วยเส้นใยธรรมชาติมีคุณสมบัติที่สำคัญคือสามารถเปลี่ยนรูปแบบการวิบัติของอาคารจากเดิมคือ brittle failure (การวิบัติแบบเปราะ, แบบฉับพลันทันที) เป็น ductile failure (แบบเหนียว,แบบชะลอ) ซึ่งเป็นการวิบัติแบบที่ผู้อาศัยเห็นสัญญาณเตือนก่อนและมีเวลาหนีออกจากอาคารได้มากขึ้น สามารถเพิ่มกำลังการรับแรงอัดคอนกรีต (compressive strength) ได้ ประมาณ 10-20% จากกำลังของคอนกรีตเดิม และสามารถเพิ่มความเหนียว (Ductility) ให้กับโครงสร้างคอนกรีตได้ประมาณ 1.5-2 เท่าของความเหนียวเดิม

3. การซ่อมแซมแก้ไขตัวอาคารหลังจากแผ่นดินไหว หรือแรงสั่นสะเทือน ทั้งนี้การแก้ไขต้องเป็นไปตามหลักของวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญที่วางแผนและปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับแต่ละอาคารที่มีลักษณะแตกต่างกันไป

          การจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์โครงสร้างรับแรงแผ่นดินไหว (K-EQSAN) ถือเป็นก้าวสำคัญของ สจล. ในการเสริมสร้างความตระหนักรู้และความมั่นใจในความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารทั่วประเทศ ศูนย์ฯ พร้อมให้คำปรึกษาในด้านการเสริมกำลังให้กับอาคารและโครงสร้างทุกประเภท นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมการป้องกันแผ่นดินไหวที่มีราคาย่อมเยา โดยใช้วัสดุภายในประเทศและวัสดุจากธรรมชาติ เพื่อให้เจ้าของอาคารสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ยังครอบคลุมการให้บริการในการวิเคราะห์อาคารภายใต้ภัยพิบัติอื่นๆ เช่น พายุ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับโครงสร้างอาคารในทุกสถานการณ์

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 080 995 9727, 084 150 0801 หรือที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=61575076592916 


วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568

หน้าร้อนอย่างนี้ ต้องทาน “ข้าวแช่คลายร้อน” ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

หน้าร้อนอย่างนี้ ต้องทาน “ข้าวแช่คลายร้อน” 

ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

         ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ จัดเมนูต้อนรับฤดูร้อนตลอดเดือนเมษายนนี้ด้วย “ข้าวแช่” สำรับอาหารที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน หอมเย็นสดชื่น ด้วยการนำข้าวสารที่ผ่านการขัดจนหมดยางข้าวก่อนทำให้สุก เวลาทานจึงเติมน้ำเย็นที่มีกลิ่นหอมของดอกมะลิพร้อมน้ำแข็ง ทานคู่กับลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย หัวหอมสอดไส้ ปลาแห้งผัดหวาน และเครื่องผัดหวานต่าง ๆ เพียงชุดละ 359 บาท++ และ ข้าวเหนียวมะม่วง เพียงชุดละ 159 บาท++ หรือ มะม่วงน้ำปลาหวาน เพียงชุดละ 129 บาท++เท่านั้น 


           พิเศษสุด!! ทานชุด “ข้าวแช่คลายร้อน” ได้ไม่อั้นเฉพาะมื้อกลางวัน ที่จัดบริการรวมในบุฟเฟต์นานาชาติพร้อมอาหารไทย 4 ภาค  ระหว่างเวลา 11.30 – 14.30 น.  เพียงท่านละ 659 บาทถ้วน (จากปกติ 900 บาท) 


          โปรโมชั่นพิเศษ!! “วันผู้สูงอายุ 13 เมษายน 2568” สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพียงแสดงบัตรประชาชนและจองมาทานครบ 4 ท่าน ผู้สูงอายุทานฟรี 1 ท่าน   

สำรองที่นั่งโทร. 0-2276-4567 ต่อ 8413-4 หรือไลน์ @theemeraldhotel และ www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop 


มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นตัวแทนบุตรหลาน ประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นตัวแทนบุตรหลาน ประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ 

เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ประจำปี 2568 ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สมุทรสาคร 

และ สุสานวัดดอนกุศล (สุสานเก่าของมูลนิธิ) เขตสาทร กรุงเทพฯ


        มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ นำทีมเจ้าหน้าที่บริหาร และพนักงาน เป็นตัวแทนบุตรหลาน ประกอบพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณไร้ญาติ เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ประจำปี 2568 โดยเครื่องเซ่นไหว้ประกอบไปด้วย เครื่องคาวหวาน กระดาษเงิน-กระดาษทอง และดอกไม้หอม ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และ สุสานวัดดอนกุศล (สุสานเก่าของมูลนิธิ) เขตสาทร กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568 และเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา



        เทศกาลเช็งเม้ง กำหนดจัดขึ้นในระหว่างเดือน 2-3 ของจีน ซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณต้นเดือนเมษายนของทุกปี เป็นเทศกาลที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื้อ ที่สืบทอดมายาวนานกว่าพันปี ก่อนวันพิธี จะมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ หลังจากนั้นในวันพิธีจะมีการเซ่นไหว้อาหารคาวหวาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ เมื่อไปอยู่อีกภพหนึ่ง


          ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไทยสู่ Dental Wellness Hub ระดับสากล

ศูนย์รากฟันเทียมเซรามิกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไ...