วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ประกันสังคมย้ำ นายจ้างอาจมีโทษเทียบปรับตามกฎหมาย หากแจ้งเข้า – แจ้งลาออกจากงานให้ลูกจ้างล่าช้า

ประกันสังคมย้ำ นายจ้างอาจมีโทษเทียบปรับตามกฎหมาย หากแจ้งเข้า – แจ้งลาออกจากงานให้ลูกจ้างล่าช้า

          นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีนายจ้างสถานประกอบการหลายแห่ง แจ้งเข้างานและแจ้งลาออกจากงานให้ลูกจ้างล่าช้า ทำให้ข้อมูลในระบบฐานทะเบียนไม่เป็นปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ล่าช้า รวมถึงทำให้สำนักงานประกันสังคมต้องจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลเกินจริง

          สำนักงานประกันสังคม ขอย้ำ หน้าที่นายจ้างตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 กำหนดให้นายจ้างที่มีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการ ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป หรือ กรณีมีลูกจ้างเข้าทำงานใหม่ นายจ้าง ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) ต่อสำนักงานประกันสังคม ดังนี้

          - นายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 

          - นายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา 

          โดยนายจ้างมีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน

          - กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน

          - กรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปสามารถดำเนินการได้ที่ระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม หรือ www.sso.go.th ได้ทันที

           นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้นายจ้างรีบดำเนินการแจ้งเข้างานและแจ้งลาออกจากงานให้ลูกจ้าง ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ข้อมูลในระบบฐานทะเบียนเป็นปัจจุบัน และลูกจ้างจะได้ไม่พลาดสิทธิความคุ้มครองตามกฎหมายประกันสังคม และหากพบนายจ้างมีเจตนาหลีกเลี่ยง บ่ายเบี่ยง ล่าช้า จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที (โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) จึงขอความร่วมมือให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง     


วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

นักธุรกิจ 49 ประเทศแห่ชมงาน งาน "STYLE Bangkok 2024" สร้างรายได้กว่า 1,756 ล้านบาท ยอดขายเกินเป้า

นักธุรกิจ 49 ประเทศแห่ชมงาน งาน "STYLE Bangkok 2024"

สร้างรายได้กว่า 1,756 ล้านบาท ยอดขายเกินเป้า

         ประสบสำเร็จอย่างงดงามสำหรับงาน  "STYLE Bangkok 2024" มหกรรมแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นชั้นนำของเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่่ 20-24 มีนาคม 2567 โดยประกาศความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายด้วยมูลค่าการค้าและจำนวนผู้เข้าชมงาน

         โดยมูลค่าการค้าตลอด 5 วัน สามารถสร้างรายได้กว่า 1,756 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 จากมูลค่าการค้าของครั้งก่อน ในส่วนของมูลค่าการค้าวันเจรจาธุรกิจ ทั้งมูลค่าจากยอดสั่งซื้อทันทีและจากที่จะสั่งซื้อภายใน 1 ปี อยู่ที่  กว่า 1,732 ล้านบาท ยอดขายในวันสำหรับประชาชนทั่วไปอยู่ที่  กว่า 24 ล้านบาท ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย


                        

         นอกจากนี้ จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมงานตลอด 5 วัน กว่า  25,000ราย จาก 49 ประเทศ/เขตการค้า เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนร้อยละ 4.40 ทำให้ประจักษ์ได้ถึงศักยภาพของงาน STYLE Bangkok ในการเป็นศูนย์รวมการค้าและโอกาสในการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ

        ในงาน "STYLE Bangkok" ปีนี้ หมวดสินค้าที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ได้แก่ หมวดสินค้าแฟชั่นซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมาก โดยมูลค่าการค้าของสินค้าในหมวดแฟชั่นเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน ร้อยละ 40.6 ตอกย้ำศักยภาพของไทยในฐานะเวทีการค้านานาชาติที่สำคัญของภูมิภาค


        รวมทั้งยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) จำนวน 2 คู่ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน SMEs และ OTOP ภายใต้โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ตามแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยการพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการให้มีศักยภาพ และส่งเสริมต่อยอดด้านตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย 1. MOU ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับ กระทรวงมหาดไทย และ 2. MOU ระหว่าง บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวลำภู (ศูนย์การเรียนรู้ออกแบบขวัญตา)


                                                                                                                                        นอกจากนี้ยังมีการเจรจาการค้า ระหว่าง MUJI (มูจิ) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น กับผู้ประกอบการไทย 5 ราย  ประกอบด้วย Prodpran Craft, Boonyarat Thaicrafts, Mallavi Limited Partnership,   Deesawat Industries Co., Ltd และ Divana Global Co., Ltd. ซี่งจะช่วยส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการของไทยในตลาดโลก โดยความร่วมมือนี้เป็นการต่อยอดจากการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา


         สำหรับนักธุรกิจ ผู้เข้าเยี่ยมชมจากต่างประเทศ 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในระดับโลกของงานนี้และผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดในระดับภูมิภาค                                                                                                                                                                                                         นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวชื่นชมความสำเร็จของงานว่า “STYLE Bangkok 2024 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยสามารถยกระดับมรดกทางวัฒนธรรมสู่มิติใหม่ของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Soft Power ของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”


                                                                                                                                           งาน "STYLE Bangkok 2024" ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้แสดงสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาดโลก SMEs รวมถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ ต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีอัตลักษณ์ของมรดกวัฒนธรรมผสมผสานกับกลิ่นอายความร่วมสมัย

              นายภูสิตกล่าวถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok ว่า “มองไปข้างหน้า เราวางเป้าหมายที่จะทำให้งาน STYLE Bangkok มีส่วนช่วยยกระดับประเทศไทยให้ก้าวขึ้นไปอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์และแฟชั่นระดับโลก การเป็นแหล่งรวมของความคิดสร้างสรรค์ การนำเสนอสินค้าที่มีดีไซน์ การทำงานร่วมกัน และการเข้าถึงตลาด คาดว่าจะช่วยส่งผลให้งาน "STYLE Bangkok" ประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต”


                                                                                                                                        งาน "STYLE Bangkok 2024" ได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้เยี่ยมชมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ซื้อชาวต่างประเทศ เช่น Ms. Takako Kondo กล่าวว่า “มางาน STYLE Bangkok 2024 ได้รับประสบการณ์ที่ดี มีค่ามาก ได้พบสินค้าถูกใจมากมาย และพบว่า STYLE Bangkok ให้ความสําคัญกับเรื่อง SDGs ซึ่งสำคัญมาก และให้มุมมองที่แตกต่าง”  มร. David Tucker ผู้ซื้อจากซิดนีย์ ออสเตรเลีย บอกว่าเขาตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของงาน  STYLE Bangkok ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปในฮอลล์ด้วยซ้ำ  ที่จริงเขาและเจ้านายต่างมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ประเภทของตกแต่งบ้านจากประเทศไทยมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สินค้าทำมือ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความยั่งยืน “ผมคิดว่า เมื่อเราขายสินค้าให้ใคร เราจำเป็นที่จะต้องบอกเค้าได้ว่านี่เป็นสินค้าประเภทที่มีความยั่งยืนผลิตแบบออร์แกนิก ไม่สร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม”

             ทนอกจากสินค้าที่โดดเด่น มากมายที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อผู้ชมงานแล้ว STYLE Bangkok 2024 ยังได้รับการตอบรับในแง่การจัดนิทรรศการที่หลากหลาย การสัมมนาให้ความรู้เชิงลึก และกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจที่คึกคัก ความสำเร็จของงานเป็นอีกหนึ่งประจักษ์พยานในความมุ่งมั่นของไทยบนเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและบทบาทของสินค้าไทยในเวทีระหว่างประเทศ    

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       


วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567

อร่อยได้ไม่อั้นกับ "สามสหายซาชิมิพรีเมียม" ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพโรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

อร่อยได้ไม่อั้นกับ"สามสหายซาชิมิพรีเมียม" ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพโรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ 

      ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะสายปลาดิบกับเมนูพิเศษ “Trio Premium Sashimi” ความอร่อยที่พลาดไม่ได้ตลอดเดือนเมษายน 2567 นี้เท่านั้น


            เชิญลิ้มลองความพรีเมียมกับ “เซตสามสหายซาชิมิพรีเมียม” ด้วย “โอโทโร่” ลายไขมันสวยงาม สัมผัสเนียนนุ่มละมุนลิ้น “ฮามาจิ” เนื้อแน่น หวานฉ่ำ สดใหม่ “แซลมอน” ชิ้นหนา ลายสวย อร่อยเต็มคำ บริการรวมในบุฟเฟต์นานาชาติมื้อเย็น ทั้งซีฟู้ด ซูชิพรีเมียม พาสต้า ขาหมู ข้าวต้มปลากะพง ขนมหวาน ผลไม้ ไอศกรีม เครื่องดื่มชา-กาแฟ น้ำอัดลม ระหว่างเวลา 18.00 – 22.00 น.

              พิเศษสุด! เพียงท่านละ 1,299 บาทสุทธิ (จากราคาปกติ 1,700 บาท) ทานได้แบบไม่จำกัดเวลา

              สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8429-30 หรือ ไลน์ @theemeraldhotel  และ www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop






                                                                                                                      




            

                                               

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

นิตยสาร BUSINESS+ โดย บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ ม.หอการค้าไทย จัดมอบรางวัล"THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024" สุดยอดองค์กรธุรกิจไทย

นิตยสาร BUSINESS+ โดย บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ ม.หอการค้าไทย

จัดมอบรางวัล"THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024"

สุดยอดองค์กรธุรกิจไทย

     นิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงานมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024” รางวัลอันเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจแด่องค์กรไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศ ที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน ประจำปี 2567 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Future of AI – Enabled Enterprises โดยมี ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี มาปาฐกถาพิเศษ และเป็นประธานในการมอบรางวัลใหีแก่องค์กรที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้นรวม 20 รางวัล ประกอบด้วยรางวัลประเภทอุตสาหกรรม 7 รางวัล และรางวัลความเป็นเลิศ 13 รางวัล โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมรับรางวัลอย่างสมเกียรติ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อวันวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567

      นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “ งานมอบรางวัลในวันนี้นับเป็นปีที่ 12 ที่นิตยสาร BUSINESS+ ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Future of AI – Enabled Enterprises  : ก้าวสู่อนาคตขององค์กรด้วยปัญญาประดิษฐ์ ด้วยความชาญฉลาดและความก้าวหน้าของ AI ย่อมจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง และการปฏิวัติการทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงาน และการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI ซึ่งจากการวิจัยของ McKinsey แสดงให้เห็นว่า Generative AI สามารถเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติในกิจกรรมทางธุรกิจได้มากถึงร้อยละ 70 ในเกือบทุกสาขาอาชีพระหว่างปัจจุบันถึงปี 2030 ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้นับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกองค์กรจะต้องศึกษาเรียนรู้ และนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ให้มากยิ่งขึ้น ในนามนิตยสาร Business+ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รางวัล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024 นี้ จะเป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญในการเสริมสร้างกำลังใจ ให้องค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เสริมสร้างความมุ่งมั่นที่จะยกระดับศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจให้เจริญงอกงามยั่งยืน อันเป็นรากฐานสำคัญของเศรษกิจไทยต่อไปในอนาคต”

         รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า  “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจของประเทศและระดับอาเซียนที่มุ่งสร้างผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และนักบริหารธุรกิจที่มีคุณภาพ มีคุณธรรมจริยธรรม พร้อมรับมือกับความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอนด้านนวัตกรรม  ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI  โดยมหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตร วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์  และวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เน้นเรื่อง Data Analytics and Intelligent System Development เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ ที่จะต้องมุ่งไปสู่โลกแห่ง AI ที่เป็นอนาคต ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก อย่างไรก็ตามปี 2567 นี้ เราเองต้องพบกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และทุกท่านในที่นี้คือผู้ที่สามารถฝ่าฝันทุกอุปสรรคในปีที่ผ่านมาได้จนเป็นที่ประจักษ์ ผมจึงขอแสดงความยินดีกับทุกองค์กรที่เข้ารับรางวัลในครั้งนี้ รางวัลนี้จะเป็นอีกรางวัลแห่งเกียรติยศและสร้างความภาคภูมิใจในความสำเร็จขององค์กร”

      สำหรับรายชื่อองค์กรที่ได้รับรางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024”  ได้แก่

ประเภทอุตสาหกรรม     

1. อุตสาหกรรมการเงิน ได้แก่ บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด 

2. อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

3. อุตสาหกรรมประกันชีวิต ได้แก่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

4. อุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)     

5. อุตสาหกรรมพลังงาน ได้แก่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

6. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

7. อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณูปโภค ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 

                      

ประเภทความเป็นเลิศ    

1. BEST CROSS BORDER BUSINESS SOLUTIONS AWARD ได้แก่ Bank of China (Thai) Public Company Limited

2. BEST INNOVATIVE TECHNOLOGY AWARD ได้แก่ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด

3. DIGITAL BANKING SERVICES OF THE YEAR AWARD ได้แก่ ทีเอ็มบีธนชาต

4. ESG EXCELLENCE AWARD ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

5. FAST-GROWING COMPANY AWARD ได้แก่ MERZ AESTHETICS THAILAND

6. MOST ADMIRED BRAND AWARD ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

7. MOST POTENTIAL AWARD ได้แก่ บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

8. OUTSTANDING AWARD ได้แก่ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)

9. TOP BUSINESS PARTNERSHIP AWARD ได้แก่ บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด

10. TOP INNOVATIVE COMPANY AWARD ได้แก่ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

11. TOP MANAGEMENT AWARD ได้แก่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

ประเภท RISING STAR

12. RISING STAR ได้แก่ บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด 

13. RISING STAR ได้แก่ บริษัท เอ็น.พี. เมดิคอล จำกัด (โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์เนิร์ฟ)              


วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยสุขภาพประชาชนในวิกฤตค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน มอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 ผ่านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยสุขภาพประชาชนในวิกฤตค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน มอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 ผ่านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.


      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ  พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ กรรมการ เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95 จำนวน 206,000 ชิ้น รวมมูลค่า 320,000 บาท (สามแสนสองหมื่นบาทถ้วน) นำแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เขตต่างๆ และบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือตามแต่ทางกรุงเทพมหานครเห็นควร เพื่อบรรเทาทุกข์ในช่วงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยมี นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนางชญาน์นันท์ สรพลจิโรจเดชา หัวหน้าแผนกสื่อสารองค์กร (จีน) พร้อมคณะ ร่วมในพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) กรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567



        ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ”

      ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

งานมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2567 “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024”

งานมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2567 

“BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024”

จัดโดยนิตยสาร Business+ ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล

       นิตยสาร Business+ ในเครือ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานมอบรางวัล “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ - Innovation the products with Intelligence Technology” รางวัลที่มอบให้กับสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมแห่งปี 2567 อันเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จในด้านนวัตกรรมสินค้าและบริการ โดยปีนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่องค์กรที่คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดใน 8 ประเภทสินค้าและบริการ รวม 22 รางวัล อย่างสมเกียรติ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี กล่าวว่า  “จากผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2566 หรือ Global Innovation Index 2022 ซึ่งจัดโดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) เพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านวัตกรรมของแต่ละประเทศกว่า 132 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 43 เท่ากับปี 2022 เป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่มประเทศ เศรษฐกิจรายได้ระดับกลางถึงบนที่มีอยู่ 33 ประเทศ และเป็นอันดับ 9 ในกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชียตะวันออก และโอเชียเนียที่มีอยู่ 16 ประเทศ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ GDP แล้วพบว่า ไทยเราทำได้เหนือความคาดหมายจากระดับของการพัฒนา ที่สำคัญคือ ไทยเราสามารถผลิตผลผลิตทางนวัตกรรมได้มากกว่าระดับของการลงทุนในนวัตกรรมอีกด้วย  อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเรายังมีช่องว่างในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะก้าวให้ทันประเทศชั้นนำของโลก ซึ่งมีปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาและสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำองค์ความรู้เหล่านั้นมาต่อยอดให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยต้องการรับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน”

“งานมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี ก็เป็นงานหนึ่งที่เกิดจากความร่วมมือของภาคเอกชนและภาคการศึกษาในการขับเคลื่อนและส่งเสริมสังคมไทยให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาด ในการคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีแนวคิดใหม่ๆ และช่วยสร้างความตื่นตัวให้แก่คนไทยทุกคนผมขอแสดงความยินดีกับผู้จัดงาน และองค์กรธุรกิจทุกองค์กรที่รับมอบรางวัลในวันนี้”

  นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “เมื่อยุคสมัยและเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เราต่างพบว่าสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเช่นกัน ฉะนั้นองค์กรธุรกิจจึงต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมของสินค้าและบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จึงจะสามารถอยู่รอดได้ในภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง นิตยสาร Business+ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นว่ามีสินค้าและบริการที่สร้างสรรค์และตอบโจทย์ความต้องการของอยู่มากมาย จึงเป็นที่มาของการมอบรางวัลให้แก่ผู้พัฒนาสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรม โดยร่วมมือกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เป็นวิทยาลัยการจัดการธุรกิจที่มีคุณภาพสูง มีความเชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนในสายงานบริหารจัดการภาคธุรกิจที่ทันสมัยรวบรวมและคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่นใน 8 ประเภทสินค้าและบริการ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อนำไปสู่การมอบรางวัลให้แก่สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2567 ซึ่งในปีนี้ผ่านการพิจารณาให้ได้รับรางวัลรวม 22 รางวัล ผมขอแสดงความยินดีกับองค์กรธุรกิจที่ได้รับรางวัลกับทุกองค์กร หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัล BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024 จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจในการเชิดชูองค์กรธุรกิจและเป็นแบบอย่างแก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพื่อให้เกิดการยกระดับสินค้าและบริการที่สร้างสรรค์และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้นต่อไป”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการผลิตรูปแบบเดิม อาจจะไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์อีกต่อไป คำว่านวัตกรรม หรือ Innovation จึงถูกยกมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในมุมของภาคธุรกิจ บริการ หรือแม้แต่ในภาคการศึกษาเอง ถือเป็นทางออกที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตามในการใช้นวัตกรรมมาช่วยในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันที ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและวิจัยเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจของวิทยาลัยการจัดการ เราจึงได้ความไว้ใจจาก สื่อชั้นนำด้านธุรกิจอย่าง นิตยสาร Business+ โดยบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ในการร่วมกันค้นหาองค์กรที่มุ่งสร้าง นวัตกรรม จนเป็นที่มาของการมอบรางวัลนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024 ในนามของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผมขอชื่นชมและขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง กับทุกๆ ท่านที่เล็งเห็นความสำคัญข้อนี้ จนร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคและผมเชื่อว่า นวัตกรรม จะช่วยผลักดันให้ประเทศของเราพัฒนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

รางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี 2567 “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ในครั้งนี้จัดมอบรางวัลจำนวน 22 รางวัลใน 8 ประเภท  ประเภทของสินค้าและบริการ โดยมีรายชื่อผู้ได้รับรางวัล ดังต่อไปนี้ 

ผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มการเงิน-การลงทุน

1. บัตรเดบิต TTB All Free  ทีเอ็มบีธนชาต

2. บัตรเครดิต KTC Digital  Card บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC

ผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มเทคโนโลยี

3. บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง Interlink Fiber Optic  บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)

4. Notebook Acer Swift Go บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด

ผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มประกันชีวิตและประกันภัย

5. บริการ Application MTL Click บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

6. บริการรับแจ้งเคลมออนไลน์ Smart AI Claim บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จํากัด (มหาชน)

ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้ากลุ่มยานยนต์

7. ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ ประเภทบรรทุกขนาดเล็ก FOTON TRUCK MATE iBlue 45 บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด 

8. ผลิตภัณฑ์ยานยนต์และพลังงานทดแทน EA BiO PCM บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

9. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล MAZDA2 บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

10. รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% SANY TRUCK TRACTOR รุ่น EV490-25 บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด

11. ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ Super Hi-Kool BEYOND CERAMIC บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด   

12. ยางรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ MICHELIN บริษัท สยามมิชลิน จำกัด

ผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน

13. ผลิตภัณฑ์ Smart Home ประเภทหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะ Roborock S8 MaxV Ultra บริษัท มาร์เก็ตติ้ง 1688 จำกัด

14. ผลิตภัณฑ์อ่างล้างหน้า QUINTA BASIN QUIL BY COTTO บริษัท สยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด

15. ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและการนอน ภายใต้แบรนด์ Lunio บริษัท ฮอริซอน กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด

ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าบริโภค

16. ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม สิงห์ เลมอนโซดา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด

17. ผลิตภัณฑ์น้ำด่าง อิชิตัน PH PLUS ผสมวิตามินดีและสารสกัดใบแปะก๊วย บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม

18. ผลิตภัณฑ์ Plant Based Protein (Dietary Supplement Product) (Dr.Jel Brand) บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด 

19. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Solanox บริษัท ยังเอจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

20. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจน อมาโด้ คลอโรฟิลล์ คอลลาเจน ผสม เวจจี้ กรีนเบลนด์ พลัส ไฟโต รสแอปเปิ้ล บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด

21. ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แชมพูพีไวว์ PVIVE พีไฟว์กรุ๊ป

ผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์

22. การรักษาเนื้องอกมดลูกโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยี HIFU บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนับสนุนค่าพาหนะ ชุดยาฉุกเฉิน และเสื้อสำเร็จรูป ให้แก่ผู้รับขาเทียม และช่างอาสาสมัคร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนับสนุนค่าพาหนะ ชุดยาฉุกเฉิน และเสื้อสำเร็จรูป ให้แก่ผู้รับขาเทียม และช่างอาสาสมัคร 

ในโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 167 จังหวัดตราด


         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย ร่วมกับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำทีมลงพื้นที่ มอบค่าพาหนะ พร้อมชุดยาฉุกเฉิน และเสื้อสำเร็จรูป ให้แก่ผู้รับขาเทียม และ ช่างทำขาเทียมอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 167 รวม 160 คน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 110,176 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกบาทถ้วน) 


โดยมี นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ร้อยเอก นายแพทย์ภูรีวรรธน์ โชคเกิด รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ และคณะกรรมการมูลนิธิขาเทียมฯ ร่วมในพิธี ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด อำเภอเมือง จังหวัดตราด เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต#

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567

เปิดจักรวาลสายมู ไขรหัสวัฏแห่งโชคชะตา สู่การสร้างสมดุลให้กับชีวิต ในงาน "DOD GOOD DAY MUTELU"

เปิดจักรวาลสายมู ไขรหัสวัฏแห่งโชคชะตา สู่การสร้างสมดุลให้กับชีวิต ในงาน "DOD GOOD DAY MUTELU"

30-31 มีนาคม 2567 ณ DOD Café & Bistro


     งานเปิดจักรวาลสายมู "DOD GOOD DAY MUTELU" วันที่ 30-31 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ DOD Café & Bistro อ.สามพราน จ.นครปฐม
       งาน "DOD GOOD DAY MUTELU" งานที่รวบรวมสุดยอดซินแส นักพยากรณ์ หมอดูชื่อดัง จากหลากหลายศาสตร์ความเชื่อสายมูหมอดู งานเสวนา และ ”พิธีเปิดฤกษ์เบิกมงคล” เสริมบารมี เปิดทรัพย์ รับโชค! ที่ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมกับพิธีกรรมได้ทุกขั้นตอน


         ภายในงานจัดให้กิจกรรม HILIGHT ที่นาาสนใจ อาทิ
พิธีเปิดฤกษ์เบิกมงคล เสริมบารมี เปิดทรัพย์ รับโชค เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
         เสวนาการเงินกับสายมู ร่ำรวย รอบรู้กับ Muketing, เสวนาศาสตร์โหงวเฮ้ง เมตตามหานิยม, เสวนาสุขภาพกับสายมู ฮวงจุ้ยมนุษย์สู่สมดุลสุขภาพ, ไขรหัสความลับของตัวเลข และเสวนาคนละหมัดกับการจัดฮวงจุ้ย ระหว่างซินแสที่ปรึกษาฮวงจุ้ยกับกูรูนักออกแบบชั้นแนวหน้าของเมืองไทย  รวมทั้งพูดคุยกับสุดยอดซินแส นักพยากรณ์ หมอดูชื่อดัง


        นอกจากนี้ภายในงานยังมี บูธ/ร้านค้าที่เกี่ยวกับของวัตถุมงคล เสริมบารมี เปิดทรัพย์ รับโชค! ร้านอาหารและเครื่องดื่มให้ผู้เข้าชมงานได้เดินช้อปเที่ยวกันอย่างจุใจ
        ใครที่เป็นสายมูห้ามพลาด! กับงานเปิดจักรวาลสายมู "DOD GOOD DAY MUTELU" วันที่ 30-31 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ DOD Café & Bistro อ.สามพราน จ.นครปฐม
        สามารุลงทะเบียน “รับของมงคล” ฟรี!  ได้ที่ https://forms.gle/AvtzZ6uERUKMxDY4A
        และจองคิวดูดวง ได้ที่ https://liff.line.me/2003919698-ByRNxyYl?shopId=U557a91dc18b5bb9e50804214ee905759&source=line

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ "ภูมิธรรม" เยี่ยมชมงาน "STYLE Bangkok 2024" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ "ภูมิธรรม" เยี่ยมชมงาน "STYLE Bangkok 2024" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

      นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปเยี่ยมชมงานและให้กำลังใจผู้ประกอบการในงาน “STYLE Bangkok 2024” โดยมี ดร.กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นาง วรรณพร เกตุทัต รองปลัดกระทรวงฯ นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ นางนิศาบุษป์ วีรบุตร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ ร่วมให้การต้อนรับ ณ Hall 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์




      งาน "STYLE Bangkok 2024" จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"      ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมัน...