วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

"ดร.หิมาลัย" ที่ปรึกษาคณะ กมธ.กิจการศาลฯ เป็นประธาน "โครงการ อุปสมบทหมู่ตามรอยพระศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล รุ่นที่ 5"

"ดร.หิมาลัย" ที่ปรึกษาคณะ กมธ.กิจการศาลฯ เป็นประธาน "โครงการ

อุปสมบทหมู่ตามรอยพระศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล รุ่นที่ 5"


         บริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ "มูลนิธิพระราหู" จัดโครงการอุปสมบทหมู่ตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล รุ่นที่ 5 ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 13 ธันวาคม 2566

โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน/ประธานที่ปรึกษา "มูลนิธิพระราหู"/ประธานจัดโครงการอุปสมบทหมู่ และประธานพระนวกะโพธิ รุ่นที่ 1 ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีฯ พร้อมด้วย ภริยา รวมทั้ง คุณหทัยรัตน์ ผิวพรรณ และคุณฐิติมา อภิธรรมวงศ์ ประธานบริหาร บริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด ร่วมเป็นเจ้าภาพฯ ที่วัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30 น.


         และยังได้รับเกียรติจาก พล.อ.ชนาธิป บุนนาค ที่ปรึกษา กอ.รมน. นายยงยุทธ นาควิโรจน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายศรัทธา คชพลายุกต์ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.เขต 3 นครสวรรค์ /ประธานคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน และภริยา พล.ท.ปธาน ทองขุนนา ประธานพระนวกะโพธิ รุ่นที่ 2 พล.ต.ต.สมพร สัจพจน์ รอง ผบช.ศ.


นายธนศักดิ์ มาคะสิระ นายกเทศมนตรีตำบลวัดเพลง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" น.อ.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง คุณโฉมฉาย อรุณฉาน ศิลปินนักร้อง คุณวัชรี วรรณศรี อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ญาติรักมิตรสหาย และเพื่อนกลุ่มหิมาลัยกรุ๊ป ตลอดจนครอบครัวของผู้อุปสมบทหมู่ มาร่วมพิธีปลงผมและร่วมอนุโมทนาบุญให้กับคณะผู้ที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ รุ่นที่ 5 จำนวนทั้งหมด 43 ท่าน



     โดยได้รับเมตตาจาก พระครูอุทัยธรรมานุกูล เจ้าคณะแขวงทุ่งพญาไท เจ้าอาวาสวัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมทั้ง พระครูอุดมโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพระรามอโยธยาราชธานี หัวหน้ากองงานกิจการพิเศษ พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เมตตาให้โอวาท และนำคณะผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทำพิธีกราบขอขมาลาอุปสมบท พร้อมทำพิธีปลงผมนาคให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ รุ่นที่ 5  โดยบวชพระ จำนวน 36 ท่าน และบวชชี จำนวน 7 ท่าน รวม 43 ท่าน




        และในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 คณะประธานจัดโครงการฯ จะนำคณะผู้เข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ รุ่นที่ 5 จำนวน 43 ท่าน พร้อมคณะลูกศิษย์เดินทางไปยังวัดไทยพุทธคยา เพื่อทำพิธีบรรพชา ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และทำพิธีอุปสมบทหมู่ ณ พระอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นลำดับต่อไป















วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ททท.สำนักงานเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาสัมผัส 4 เส้นทางแห่งความสุข ภายใต้แคมเปญ “สุขทันที....ที่เที่ยวพะเยา”

 ททท.สำนักงานเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาสัมผัส 4 เส้นทางแห่งความสุข ภายใต้แคมเปญ “สุขทันที....ที่เที่ยวพะเยา”

         การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวพะเยาด้วยแคมเปญ “สุขทันที...ที่เที่ยวพะเยา” เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดพะเยา พร้อมประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยส่งมอบความสุขและความทรงจำที่ดีในทุกการเดินทาง ใน 4 เส้นทางแห่งความสุขในพื้นที่จังหวัดพะเยาในฤดูกาลที่องเที่ยว 2566 เป็นต้นไป

          นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการตลาดการท่องเที่ยว 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ตามทิศทางแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี 2567 เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกระแสหลักและกลุ่มศักยภาพ ทั้งคนไทยและต่างชาติ และเพิ่มการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวผ่านการส่งมอบประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) โดยนำจุดแข็งด้านวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าตามอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาเป็นจุดขาย ด้วยพลังของ soft power เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ ททท. สำนักงานเชียงรายรับผิดชอบทั้งจังหวัดเชียงราย และพะเยา

        ในส่วนของจ้งหวัดพะเยามีสถานการณ์การท่องเที่ยวที่มีการเติมโตที่ดี หลังจากสถานการณ์โควิด 19 โดยในปี 2565 พะเยามีผู้เยี่ยมเยือนรวม 977,460 คน (เพิ่มขึ้น 210.29 %) รายได้ 1,835 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 233.76 %) จากปี 2564 สำหรับในช่วงมกราคม-กันยายน 2566 มีผู้เยี่ยมเยือน 725,598 คน รายได้ 1,631 ล้านบาท ( เพิ่มขึ้น 17.55 %) จากปี 2565 

      จังหวัดพะเยา เป็นหนึ่งในเมืองรองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอารยธรรมเก่าแก่ มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม ภูเขา แม่น้ำ ทุ่งนา ป่าไม้ที่เขียวขจี โดยเฉพาะบรรยากาศริม“กว๊านพะเยา เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยาที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่ครั้งหนึ่งต้องมาสัมผัสกับบรรยากาศร่มรื่น ขิมอาหารอร่อยจากร้านอาหารที่มีอยู่มากมายเรียงรายโดยรอบ กว๊านพะเยา มีความงดงามของสถานที่ชมทะเลหมอกดอยหนอกและภูลังกา รวมไปถึงวัดดังเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตาชวนมาให้สัมผัส อีกทั้งยังมีคาเฟ่สวยๆ และมีที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจอีกมากมาย ทั้งในตัวเมือง และต่างอำเภอ จังหวัดพะเยาจึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมที่จะเดินทางมาเติมเต็มความสุข เติมพลังให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดียิ่ง

      ในปีงบประมาณ 2567 นี้ ททท. สำนักงานเชียงราย มี
แผนที่จะดำเนินการจัดโครงการ “เที่ยวพะเยา...สุขทันใจสร้างได้ไม่ต้องรอ” ( Phayao Instant Happiness Moment) เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาให้เป็นที่รู้จัก สร้างกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพะเยามากยิ่งขึ้น โดยชูความสุขในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างประสบการณ์ใหม่ที่มีคุณค่าและยั่งยืนให้แก่นักท่องเที่ยว โดยส่งมอบความสุขและความทรงจำที่ดีในทุกการเดินทาง นำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยว 4 เส้นทางแห่งความสุขในพื้นที่จังหวัดพะเยา (สุขกาย (Nature), สุขใจ (Faith), สุขในวิถี (Local), สุขในอาหารอร่อย (Tasty)) ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ผ่านช่องทางในการสื่อสาร Online และจัดกิจกรรม Agent/Media FAM Trip นำสื่อมวลชนและผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่เข้ามาทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเพื่อออกแบบเส้นทางและนำไปเสนอขายเป็นแพ็คเก็จท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามายังพื้นที่และประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย โดยมีกำหนดการจัดกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ “สุขทันที....ที่เที่ยวพะเยา” ในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566 ณ ร้านนิทานบ้านต้นไม้ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยนำคณะสื่อมวลชนในจังหวัดพะเยา และเชียงใหม่ ประมาณ 30 คน ประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมฯ และผู้ประกอบการภาคเอกชน, หน่วยงานราชการในจังหวัดพะเยาอีก 30 คน รวม 60 คน



          ภายในงานจะมีกิจกรรมออกบูทนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการท่องเที่ยว นำเสนอ 4 เส้นทางแห่งความสุขและกิจกรรม lucky Draw ลุ้นรางวัลจาก ททท.:หลายรายการ
          นอกจากนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการเดินทาง กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดพะเยามากยิ่งขึ้น ททท.สำนักงานเชียงราย ร่วมกับ จังหวัดพะเยา, หอการค้าจังหวัดพะเยา, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา, ชมรมร้านอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดพะเยา และ YEC จังหวัดพะเยา ได้ร่วมกันแคมเปญด้านการตลาดเพื่อเสนอขายแก่นักท่องเที่ยวในห้วงเดือนธันวาคม 2566 จึงถึงเดือนเมษายน 2567 อาทิเช่น


        กิจกรรม Phayao Road Trip Check-in เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเช็คอินท่องเที่ยว 4 เส้นทางแห่งความสุข รับของที่ระลึกและสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 - เมษายน 2567 
       เชิญชวนนักท่องเที่ยวสายศรัทธา ร่วมกิจกรรม Rally ท่องเที่ยวค้นหาความสุขใจ และ เช็คอิน ชม แชร์ ชวน ในแอปพลิเคชัน Tripniceday รับแลกของที่ระลึก และสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ในช่วงงานเวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยา ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2567


       และกระตุ้นการท่องเที่ยวพะเยาในช่วงกรีนซีซั่นด้วยกิจกรรมพิเศษต่างๆ ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษ ในช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 นี้ด้วย
       ททท. สำนักงานเชียงราย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว เดินทางมาสัมผัสกับการความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการท่องเที่ยว ใน 4 เส้นทางแห่งความสุข ภายใต้แคมเปญ “สุขทันที....ที่เที่ยวพะเยา”


       สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 หรือ TAT CallCenter โทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้ที่เว็บไซต์
www.tourismchiangrai-phayao.com, เพจ Facebook : ททท.สำนักงานเชียงราย , www.checkinphayao.com

สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ฉลองครบรอบ 46 ปี

สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ฉลองครบรอบ 46 ปี

       สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมป์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดงานฉลองครบรอบ 46 ปี โดย ดร.สมศักดิ์ รุ่งเรือง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ (สสอท.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน



 และพิธีมอบรางวัล บุคลากรดีเด่น นักศึกษาดีเด่น และนักศึกษาทุน ประจำปี 2566  ณ ห้อง Function Six โรงแรม Siam@Siam Design Hotel Bangkok เมื่อเร็วๆนี้

                                                                 

                                                                                                   


วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ททท. ร่วมพิธีเปิด "ลานอรุณ" หน้าพระปรางค์ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

ททท. ร่วมพิธีเปิด "ลานอรุณ" หน้าพระปรางค์ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร  

พัฒนาพื้นที่สาธารณะภายในวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 

สำหรับใช้เป็นกิจกรรมสาธารณะกุศล ประจำปี 2566


      นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้บริหาร และคณะกรรมการบริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้ง ร่วมพิธีเปิดลานอรุณ และสักการะพระปรางค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์น้อย-วิหารน้อย ของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พร้อมทั้งถวายความเคารพพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยมีคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัททีซีซี เป็นประธานในพิธีฯ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร  เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566


       กิจกรรมนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจ ของภาครัฐและภาคเอกชน ในการส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นการพัฒนาพื้นที่สาธารณะภายในวัด ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของไทย


       โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ นักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติ ได้นิยมใส่ชุดไทยในการเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งโบราณสถานและสถานที่สำคัญทางประวัติศาตร์ ซึ่งวัดอรุณฯ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว highlight ที่จะเห็นนักท่องเที่ยวใส่ชุดไทยกันหนาตาทีเดียว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งการผลักดันนโยบาย Soft Power เชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรม

#AmazingThailand

#เจ้าบ้านที่ดี

#วัดอรุณราชวราราม

#thailandsoftpower

ททท.บุกตลาด Cruise ปั้นไทยเป็นหมุดหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพทุกกลุ่ม

ททท.บุกตลาด Cruise ปั้นไทยเป็นหมุดหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพทุกกลุ่ม

         ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญ (Cruise Traveller) ที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จำนวนกว่า 83,425 คนสร้างรายได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต สมุยและจังหวัดใกล้เคียง ไม่น้อยกว่า 530 ล้านบาท

          จากการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล. (ศรชล.) และ จากการหารือ การส่งเสริม Cruise ร่วมกับ ประธาน Asia Cruise Services Network (ACSN) พบว่า ระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เรือสำราญต่างชาติหลัก จำนวน 8 ลำ ได้แก่ 1) AIDAbella 2) Celebrity Edge 3) Celebrity Solstice 4) Crystal Symphony 5) Regatta 6) Seven Seas Explorer 7) Spectrum of the Seas และ 8) Westerdam นำนักท่องเที่ยวกว่า 15,642 คน พร้อมด้วยพนักงานและลูกเรือกว่า 6,347 คน เดินทางเข้าเทียบท่า ณ ชายหาดป่าตอง เกาะสมุย ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย และท่าเรือศรีราชา

          นักท่องเที่ยวกลุ่มเรือสำราญนับเป็นหนึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อรักษาสัดส่วนและบริหารความเสี่ยงจากการเดินทางทางอากาศและทางบก โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมาเรือสำราญขนาดใหญ่เข้าประเทศไทยแล้ว จำนวนทั้งหมด 23 เที่ยว ด้วยนักท่องเที่ยว จำนวน 59,031 คน และลูกเรือ จำนวน 24,394 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากประเทศสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อังกฤษ และแคนาดา สร้างรายได้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแล้ว ไม่น้อยกว่า 530 ล้านบาท

            ททท. ยังคงผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเรือสำราญ (Cruise Tourism) และกลุ่มยอช์ต (Yacht Tourism) โดยได้เตรียมการบูรณาการความร่วมมือกับกรมการท่องท่องเที่ยว กรมเจ้าท่า ศรชล. รวมถึงผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย Seatrade Cruise Global 2024 ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายน 2564 ณ the Miami Beach Convention Center สหรัฐอเมริกา

#CruiseTourism

#AmazingThailand

#SeatradeCruiseGlobal2024

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"      ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมัน...