วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ททท. เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ชวนออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยว มิติใหม่ ด้วยตัวคุณเอง

ททท. เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” 

ชวนออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยว มิติใหม่

ด้วยตัวคุณเอง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลุยพลิกโฉมปีท่องเที่ยวไทย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ชวนสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยมิติใหม่ด้วยตัวคุณเอง ภายใต้กรอบแนวคิด “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” ต่อยอด SOFT POWER 6F : 4นำเสนอคุณค่าการท่องเที่ยวผ่าน Cinematic Theme ใน 3 Chapters ได้แก่ Nature, Love และ Experience ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับสู่การเป็น World Class Destination มุ่งกระตุ้นการเดินทางจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ขานรับนโยบายพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย ปี 2565 ตั้งเป้าให้เกิด Greatest Change ด้วย Soft Power of Thailand ตามแนวคิด  6F : 4ประกอบด้วย Food Fashion Film Festival Fight  Friendship และ Music Museum Master Meta เพื่อเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ และนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและดิจิทัล โดยกำหนดแคมเปญสื่อสารการตลาด “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” นำเสนอความพิเศษในการท่องเที่ยวผ่านเมนูประสบการณ์ที่มีคุณค่าเหนือราคา From A to Z Amazing Thailand Has it All ชูอัตลักษณ์ของประเทศไทย (Thai Cultural Values) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้ออกเดินทางมาสัมผัส แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าประทับใจมากกว่าที่เคย รวมถึงยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย สู่การเป็น World Class Destination


                สืบเนื่องจากการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power นั้น FILM ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญ สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยทั้งในเรื่องการบริการของสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้อย่างมหาศาล ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากมายที่เดินทางเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน เพชฌฆาตปืนทอง” (The Man with the Golden Gun) ในปี 2517 ถ่ายทำบริเวณเขาตะปู จ.พังงา ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ปี 2555 ถ่ายทำในจังหวัดเชียงใหม่ ภาพยนตร์เรื่อง The Beach นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ถ่ายทำที่อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่ เป็นต้น ซึ่งสร้างการรับรู้ถึงความสวยงามให้กับผู้ชมทั่วโลก

จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและเทรนด์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ พบว่าในช่วงที่ผ่านมาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่องทาง Online VDO Services มีอัตราเติบโตของผู้ติดตามกว่าร้อยละ 26 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นจนถึง 1,100 ล้านคนทั่วโลก สะท้อนพฤติกรรมของคนในยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับการรับ-ส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ททท. จึงเล็งเห็นความสำคัญของการปรับใช้แนวทางเพื่อบอกเล่าและส่งต่อประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ในรูปแบบ Cinematic Theme เป็นภาพยนตร์โฆษณา ชุด “Write Your New Chapter” ความยาว 4 นาที ภายใต้การผลิตภาพยนตร์โฆษณาของบริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ และฝีมือกำกับของนายณัฐดนัย ป้อมบ้านต้า ผู้กำกับ บริษัท อันบอกซ์นาว จำกัด พาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว 3 Chapters ได้แก่ Amazing New Chapter of Nature ฉายภาพครอบครัวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวทะเลไทย ก่อนพบเจอกับการกลับมาของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ Amazing New Chapter of Love พาติดตามความรักสุดคลาสสิกของวัยเก๋าในเส้นทางท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของประเทศไทยที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้พร้อมสำหรับการเริ่มใหม่ได้เสมอ และ Amazing New Chapter of Self Discovery ชวนออกตามล่า ค้นหาตัวตนในรูปแบบภาพยนตร์ Sci-Fi ท่องโลก Metaverse ที่น่าค้นหาและสร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบ โดยทั้ง 3 Chapters นี้ จะช่วยสะท้อนเสน่ห์ของการท่องเที่ยวไทยในมุมมองที่หลากหลาย แปลกใหม่ สร้างแรงบันดาลใจ (Inspire) ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาค้นหา (Explore) และ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ (Experience) ที่น่าประทับใจ ผ่านการออกแบบเรื่องราว (Chapter) ในแบบฉบับของตัวเอง ตลอดจนแบ่งปันสู่ผู้คนทั่วโลก

ทั้งนี้ ททท. วางแผนที่จะนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะเผยแพร่ในต่างประเทศผ่านทางช่องทางสื่อออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบอื่น ๆ เช่น สื่อ Out of Home ณ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ท่าอากาศยานในต่างประเทศ และช่องทางของ ททท. สำนักงานต่างประเทศ 29 แห่งทั่วโลก รวมถึงประกาศความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดย ททท.คำนึงถึงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่พร้อมออกเดินทางและมีศักยภาพในการใช้จ่าย เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาราเบีย อิสราเอล และตลาดยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่ง ททท. จะดำเนินงานส่งเสริมการตลาดควบคู่กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อผลักดันยอดเป้าหมายตลาดต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย อยู่ที่ 7 - 10 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้     

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ททท.สำนักงานแพร่ ชวนมากินทุเรียนแบบเท่ห์ๆ ในกิจกรรม "นุ่งซิ่นกินทุเรียนลับแล"

ททท.สำนักงานแพร่ ชวนมากินทุเรียนแบบเท่ห์ๆ ในกิจกรรม "นุ่งซิ่นกินทุเรียนลับแล"

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ (แพร่-อุตรดิตถ์​) ร่วมกับ​ พิพิธภัณฑ์​ผ้าซิ่นตีนจก​ ไท-ยวน​ ลับแล​ จัดงาน​ "นุ่งซิ่นกินทุเรียน​ ปี​ 2565" วันที่​ 2-3 กรกฎาคม​ 2565​ ณ​ พิพิธภัณฑ์​ผ้าซิ่นตีนจก​ ไท-ยวน​ ลับแล​ ตำบลชัยจุมพล​ อำเภอลับแล​ จ.อุตรดิตถ์​ เพื่อสืบสานมรดกภูมิปัญญา​ผ้าซิ่นตีนจก​ลับแล​ และส่งเสริม​การท่องเที่ยว​ทางวัฒนธรรม​ของ​ อำเภอลับแล​ จ.อุตรดิตถ์​

      นายอนันต์ สีแดง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่ (แพร่-อุตรดิตถ์)  กล่าวว่า (ททท.) สำนักงานแพร่ (แพร่-อุตรดิตถ์​) ได้ร่วมกับ​ พิพิธภัณฑ์​ผ้าซิ่นตีนจก​ ไท-ยวน​ ลับแล​ จัดแคมเปญดีๆ ในกิจกรรมงาน "นุ่งซิ่นกินทุเรียนลับแล" ในวันที่​ 2-3 กรกฎาคม​ 2565​ จึงขอเชิญชวนคุณสาวๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ และรุ่นไม่ใหญ่ มาสนุกสนานกันแต่งซิ่นตัวแพงๆ มาอวดกันในแฟชั่นแบบเท่ห์ๆ พร้อมอวดโฉมเดินสวน กินทุเรียนกัน    

            งานนี้ ห้ามเอาแฟน เอาสามีมานะครับ เดินอวดกันเต็มที่ 100 ท่านแรกนุ่งซิ่น..มาร่วมงาน รับชุด​ welcome fruits สด​ ออร่อย จากสวนผลไม้​ลับแล เฉพาะวันที่​ 2 กรกฎาคม​ 2565​ ณ​ บูธ​ ททท.ในงาน เริ่มตั้งแต่เวลา​ 13.00​ น.​เป็นต้นไป

             ภายในงาน "นุ่งซิ่นกินทุเรียนลับแล" ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ

-ชม​ ผ้าซิ่นตีนจก​ ไท-ยวน​ ลับ​แล​

-ชิม​ อาหารพื้นเมืองลับแล,​ ทุเรียน​ (มีจำหน่าย)​

-ช้อป​ ผลิตภัณฑ์​ สินค้าชุมชน​ลับแล​

-กิจกรรม​ workshop ทำเครื่องประดับจากผ้า

แล้วปะกั๋นเน้อ

#ทททแพร่

#เที่ยวอุตรดิตถ์Amazingยิ่งกว่าเดิม

#นุ่งซิ่นกินทุเรียน2565

การมอบรางวัลการประกวดเรียงความ เรื่อง "ช้างคู่พระบารมี ที่ข้าพเจ้าประทับใจ"

การมอบรางวัลการประกวดเรียงความ เรื่อง "ช้างคู่พระบารมี ที่ข้าพเจ้าประทับใจ"

 

           นางสาวกุลณัฐฐา จิรจงพาณิชย์ ที่ปรึกษาองค์กรสภาอนุรักษ์ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมการท่องเที่ยวแก่งคอย และศูนย์อนุรักษ์ช้างช้างทองคำ โดยได้รับการประสานงานจากคุณธนบดี พรหมสุข ประธานศูนย์อนุรักษ์ช้างทองคำ (ผู้ครอบครองช้างพลายเอกชัย) โรงเรียนวัดสุนันทาราม และโรงเรียนวัดลาดเขาปูน ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จัดกิจกรรมประกวดการแต่งเรียงความ เรื่อง "ช้างคู่พระบารมี ที่ข้าพเจ้าประทับใจ"


           นางสาวกุลณัฐฐา จิรจงพาณิชย์ ที่ปรึกษาองค์กรสภาอนุรักษ์ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมอบรางวัลและมอบใบเกียรติบัตรให้แก่เยาวชน กว่า ๓๐ คน ในการประกวดเรียงความเรื่อง "ช้างคู่พระบารมี ที่ข้าพเจ้าประทับใจ" ในครั้งนี้  ณ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดสุนันทาราม จังหวัดสระบุรี เมื่อวันอังคารที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕


       โดยเยาวชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ เด็กชายพิพัฒน์ พิมมะศร

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ คือ เด็กหญิงอณัณญา โพธิ์ศรี และ

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ คือ เด็กหญิงขวัญฤทัย หว่างไพรี 

รางวัลชมเชย ได้แก่ ด.ญ.วรรณิษา สายศรี เด็กชายชินกฤต สุทธิ์จำปา และเด็กชายวีรวุฒิ ช่อมะกอก

ขอแสดงความยินดี มา ณ โอกาสนี้

JIMMY Sirius HW10 เครื่องล้างพื้นทำความสะอาดพื้น มาแรงแห่งปี 2565 เครื่องทำความสะอาด 3in1 แบบไร้สาย ง่ายครบจบ ทุกไลฟ์สไตล์ ดูด ถู ล้างพื้น พร้อมทำความสะอาดตัวเองได้ จบในเครื่องเดียว

JIMMY Sirius HW10 เครื่องล้างพื้นทำความสะอาดพื้น มาแรงแห่งปี 2565

เครื่องทำความสะอาด 3in1 แบบไร้สาย ง่ายครบจบ ทุกไลฟ์สไตล์

ดูด ถู ล้างพื้น พร้อมทำความสะอาดตัวเองได้ จบในเครื่องเดียว

ในยุคปัจจุบันที่คนวัยทำงานมักแสวงหาความสมดุลของชีวิต การทำให้ชีวิตและทำงานสมดุลกันจะต้องใช้เวลาและพลังงานอย่างมาก เมื่อคุณกลับถึงบ้านหลังจากการทำงานที่ยุ่งวุ่นวายในแต่ละวัน คุณจึงต้องการ การผ่อนคลายและทำกิจกรรมสนุกๆที่ทำให้มีความสุขและสนุกสนาน แต่ในขณะเดียวกันชีวิตประจำวันของคุณ ก็จะต้องใช้เวลาและความพยายามในการดูแลบ้านให้สะอาดน่าอยู่เสมอ เช่น การดูแลทำความสะอาดพื้นบ้านที่เบื้อนฝุ่นคราบสกปรกจากเครื่องปรุงรสหรือน้ำซุปร้อนๆที่หกลงพื้นในขณะปรุงอาหาร และคราบสกปรกจากอุบัติเหตุเด็กวิ่งชนแก้วโยเกิร์ต ซีเรียล น้ำผลไม้ กาแฟโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นต้น

           สำหรับผู้ที่ฝันถึงบ้านที่ สะอาด น่าอยู่ แต่ต้องการประหยัดเวลาและพลังงาน การแก้ปัญหาคือใช้เครื่องล้างพื้น และดูดฝุ่นแบบไร้สาย Jimmy Sirius HW10 ตัวช่วยที่ทรงพลังและทำหน้าที่ได้หลากหลาย ทั้งดูดฝุ่น ขัดถูพื้น แบบ 3-in-1 พร้อมทำความสะอาดตัวเองด้วยปุ่มเดียว มาพร้อมกับราคา : 17,999 บาท

Jimmy Sirius HW10 เครื่องดูดฝุ่นและล้างพื้นแบบไร้สายที่ใช้มอเตอร์ดิจิทัล มีศักยภาพพร้อมพลังดูดสูงสุด 400W ซึ่งรวมฟังก์ชั่นการดูดฝุ่น การขัดถูและการดูดซับเข้าด้วยกัน สามารถทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรกที่เปียกและแห้ง รวมไปถึงการจัดการกับคราบสกปรกที่ฝังแน่นและเหนียวบนพื้นต่างๆได้ ซึ่ง Jimmy Sirius HW10 สามารถประกอบเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบใช้มือถือ เพื่อการใช้งานสำหรับดูดฝุ่นบนโต๊ะหรือตามซอกต่างๆ และดูดไรฝุ่นตามโซฟา เตียง ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ส่วนตัวหลักของเครื่องสามารถขัดล้างพื้นโดยที่ไม่ต้องคอยก้มได้เช่นกัน ถือว่าคุ้มมาก ตอบโจทย์หลากหลายฟังก์ชั่นสำหรับทุกการใช้งาน อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นใหม่เพื่อทำความสะอาดตามขอบและมุม ด้วยการออกแบบหัวแปรงแบบเอกสิทธิ์เฉพาะของ JIMMY จะทำให้การทำความสะอาดตามมุม ตามขอบที่เข้าถึงยาก ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้  Jimmy Sirius HW10 ยังมีหัวต่อที่ใช้สำหรับการดูดฝุ่นพรมแบบพิเศษ สามารถทำความสะอาดแม้กระทั่งฝุ่นและขยะที่อยู่ลึกในพรมได้อย่างง่ายๆ ซึ่งคุณจะประหลาดใจเมื่อพบว่าเวลาทำความสะอาดลดลงครึ่งหนึ่ง

Jimmy Sirius HW10 ยังโดดเด่นด้วยจอ OLCD ขั้นสูงและระบบแจ้งงานด้วยเสียงในตัว ซึ่งจะให้ข้อมูลสำคัญทั้งหมดแก่คุณแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นทำความสะอาดแปรงให้แห้งโดยอัตโนมัติ โดยคุณไม่ต้องกังวลว่ามือคุณจะเปื้อนและมีกลิ่นแปรง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีของ Jimmy Sirius HW10 เครื่องดูดฝุ่นและถูพื้นแบบไร้สายทำความสะอาดได้ 3-in-1 จะช่วยประหยัดเวลา พลังงาน และอำนวยความสะดวกให้กับคุณ เพื่อให้ทำงานบ้านได้อย่างไร้กังวล

สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของ Jimmy Sirius HW10 บอกเลยว่ามาแบบครบครัน เพราะหัวที่เอาไว้ใช้ทำความสะอาดได้ถึง 5 หัว เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ มาพร้อมแท่นชาร์จ อะแดปเตอร์ น้ำยาถูพื้น และแปรงสำหรับทำความสะอาดหัวแปรงต่างๆ

สามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee :https://bit.ly/3zvH0Sm | Lazada :https://bit.ly/3H44Eas

 

 

 

ททท. ชวนร่วมกิจกรรมวิ่ง Sexy Run Koh Mak ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2565

ททท. ชวนร่วมกิจกรรมวิ่ง Sexy Run Koh Mak ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2565 



                นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายนล สุวัจนานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก และ นายสุธารักษ์ สุนทรวิภาต ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชนหรือ อพท. ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิ่ง Sexy Run Koh Mak ณ ห้องสมุด ชั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ เมื่ิอวันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 เวลา 14.30 .

             องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด ร่วมกับ ททท.สำนักงานตราด และ อพทกำหนดจัดกิจกรรม Sexy Run ขึ้น ในระหว่างวันที่ 19 - 20 สิงหาคม 2565 จุดเริ่มต้นอ่าวสวนใหญ่ (เกาะหมาก รีสอร์ทและเส้นชัย ณ สะพานอ่าวนิด

                                                

             กิจกรรม Sexy Run มีการแข่งขั้นทั้งสิ้น 2 ระยะทาง คือ ระยะ 10 กมค่าสมัคร 600 บาท ระยะ กมค่าสมัคร 500 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ผู้สมัครจะได้รับเสื้อที่ระลึก และเหรียญรางวัลเมื่อเข้าเส้นชัย

            กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเกาะหมาก และจังหวัดตราด กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการจัดกิจกรรมแข่งขันวิ่งเท่านั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม low carbon destination อาทิ กิจกรรมแข่งขันกี่ฬาพื้นบ้าน มวยทะเล และชักกะเย่อ กิจกรรม Trash Hero (กลุ่มจิตอาสา) กิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พายซัพบอร์ด พายคายัค ฯลฯ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://web.facebook.com/SexyRunKohMakTrat

 

ททท. ส่ง Workation Thailand ช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยว Nomad เที่ยวไปทำงานไป พร้อมตอบรับกระแส The Best Workation Place

ททท. ส่ง Workation Thailand ช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยว Nomad เที่ยวไปทำงานไป พร้อมตอบรับกระแส The Best Workation Place

      กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ส่งมอบประสบการณ์ในการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการกระตุ้นและปลุกกระแสการท่องเที่ยวในรูปแบบเที่ยวพร้อมทำงาน Working&Outing From Somewhere ผ่านโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการ Workation Thailand และ Workation Thailand: Work from Everywhere โดยมีการสื่อสารหลักคือ Workation Thailand เปิดโอกาสให้บุคลากรในหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนสถานที่ทุกที่ให้เป็นสถานที่ที่ทำงาน จัดกิจกรรม ประชุม พบปะสังสรรค์ ท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม

  นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงความสำเร็จ โครงการ workation ว่า ททท. ได้ดำเนินโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand ร่วมกับพันธมิตร อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), KLOOK 

      สามารถสนับสนุนแพ็กเกจภายใต้โครงการ เพื่อกระตุ้นการเข้าพักในวันธรรมดา ก่อให้เกิดการเดินทางถึง 40,000 PAX และเกิดรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถึง 160 ล้านบาท มีหน่วยงานและองค์กรร่วมสนับสนุนแพ็กเกจมากกว่า 50 หน่วยงานผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/workationthailand จากรูปแบบสิทธิพิเศษทั้ง 4 ประเภท

       รูปแบบที่ 1. Resort & Hotel Special Deal วันธรรมดา ซึ่ง ททท. ได้รวบรวมโปรโมชั่นเด็ด ราคาพิเศษของโรงแรม ห้องพักโรงแรม ที่จัดประชุม อาทิ โรงแรมในเครือเซ็นทารา โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพ และโรงแรมดุสิตธานี พัทยา ที่จัดโปรโมชั่นราคาห้องพักร่วมกับห้องจัดประชุม ค่าอาหารและค่าจัดเลี้ยง ราคาพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน

        รูปแบบที่ 2. CSR Outing / เที่ยวตามธีม อาทิ โปรแกรมท่องเที่ยวเรื่องความอร่อยของอาหารไทยโบราณ ณ ชุมชนบ้านแหลม จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ริมน้ำท่าจีน ตลอดสองฝั่งลำน้ำเรียงรายไปด้วยบ้านทรงไทยโบราณ และวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน ภาพวิถีชีวิตดั้งเดิมเมื่อเกือบร้อยปีที่ยังมีให้ได้สัมผัส หรือแม้แต่ การทำกิจกรรม ณ ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นจุดศูนย์รวมของผู้คนจาก 2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม ที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

      รูปแบบที่ 3. Gastronomy / Luxuryเป็นการรวบรวมร้านอาหารเด็ด ร้านอาหารดัง และร้านอาหารที่ห้ามพลาด เพื่อเป็นการหลีกหนีความจำเจจากการรับประทานอาหาร ด้วยการสร้างสีสรรค์และประสบการณ์ใหม่ จากการบริการของ Tree-Top Sky Dining and Bar โรงแรมอนันตรา เกาะสมุย ห้องอาหาร Essence โรงแรมอวานีพลัส สมุย เป็นต้น

       รูปแบบที่ 4. Special Deal / ท่องเที่ยวตามความสนใจพิเศษ อาทิ บ้านพักรับรอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีความสวยงามวิวทิวทัศน์ของเขื่อนที่มองจากบ้านพักรับรองของ กฟผ. แล้วจะเกิดความผ่อนคลาย อาทิ บ้านพักรับรอง เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก / เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์/ เขื่อนวชิราลงกรณ หรือแม้แต่เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี และเขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่างก็มีความสวยงามและความสงบที่น่าประทับใจ

      นอกจากนี้ โครงการ Workation Paradise Throughout Thailand ยังได้จัดกิจกรรม The Best Workation Place: Once in the Lifetime ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวออกไปท่องเที่ยวพร้อมทำงาน ในรูปแบบ Workation พร้อมโพสต์ภาพลงบน Social Media ติดแฮชแท็ก #WorkationThailand #WorkationParadise และตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ ซึ่งมีผู้สนใจร่วมกิจกรรมมากมาย ทำให้เกิดกระแสการเดินทางในรูปแบบ Working & Outing from Somewhere

     สุดท้าย ททท.ขอขอบคุณนักท่องเที่ยวและหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่สนใจร่วมกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว และร่วมสนับสนุนแพ็กเกจภายใต้โครงการ


วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ททท. ร่วมกับ สธทท. จับมือกันทำกิจกรรมโครงการ “เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.” นำเที่ยวทั่วทุกภูมิภาค ส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ

ททท. ร่วมกับ สธทท. จับมือกันทำกิจกรรมโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.” 

นำเที่ยวทั่วทุกภูมิภาค 

ส่งเสริมการตลาดภายใน

ประเทศ


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) จัดกิจกรรมโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.” โดยจัดเส้นทางนำเที่ยวทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ


นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์  นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และประธานโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.” พร้อมด้วยประธานภูมิภาคต่างๆ และคณะกรรมการ สธทท. ได้แก่ ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ ประธานภูมิภาคภาคกลาง สธทท. คุณชนัฐมนทน์  เงินวิวัฒน์กูล  ประธานภูมิภาคภาคใต้ สธทท. คุณกัญญ์วรัณ แผ่พร รองประธานภูมิภาคภาคเหนือ สธทท. คุณโสดารินทร์  ธนเนืองโรจน์ ประธานภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สธทท. นายพูลผล  แพทอง ประธานภูมิภาคภาคตะวันออก สธทท. นายสมานนพพล รัตนธรรมทิตยา และคุณสิรินดา เอกเสถียร ร่วมแถลงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.” โดยได้รับเกียรติจากที่ปรึกษา นายมานิต บุญฉิม นางวรินทร ทองพูน นายสวัสดิ์ นวพล อาจารย์ชัยรัตน์ ด่านวิวัฒนานนท์ ประธานธรรมสถานเมืองกระบี่ นายพรเทพ สีบุญเรือง หลานพระยาคงคาธราธิบดี เจ้าเมืองกระบี่ ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมและร่วมแสดงความคิดเห็น ในการประชุมครั้งนี้ ณ ร้านอาหารส้มตำคุณกัญจณ์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565



นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์  นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และประธานโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท. เปิดเผยว่า สธทท. ได้ดำเนินโครงการ เที่ยวไทย 5 ภาคกับ สธทท.” ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2565 นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของ สธทท. ร่วมกันเสนอขายเส้นทางนำเที่ยวในรูปแบบแพ็คเกจทัวร์ โดยจัดทำรายการนำเที่ยว เสนอขายในทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย และมีกิจกรรม ร่วมกันในพื้นที่แต่ละภูมิภาค อาทิ กิจกรรมพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่กับผู้ประกอบการ สมาชิก สธทท. (Travel Mart) และกิจกรรมนำเสนอสินค้าท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการขายเส้นทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนต้องการสนับสนุนและส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค ตามแนวทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ทั้งการท่องเที่ยววันธรรมดา การท่องเที่ยวนอกฤดูกาล การท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวงานประเพณี และกิจกรรมในพื้นที่ที่ ททท. ร่วมจัด และส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่ม Corporate ตามแนวทางการดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.



โครงการเที่ยวไทย 5 ภาค กับ สธทท.  มีส่วนในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างสังคมให้เข้มแข็ง สธทท. ตระหนักถึงการมีส่วนร่วม และร่วมรับสิทธิประโยชน์ร่วมกัน คำนึงถึงเพื่อนสมาชิกในพื้นที่เส้นทางท่องเที่ยว และร่วมพัฒนางานบริการสู่มาตรฐานสากลในแนวทางเดียว มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้เพื่อนสมาชิกในแต่ละพื้นที่ได้รับการพัฒนา และนำไปสู่การสร้างาน สร้างอาชีพ และก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น

โดยประธานภูมิภาค สธทท. แต่ละท่าน ก็ได้กล่าวถึงเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการมีครบทุกภาค ทั้งภาคเหนือภาคกลางภาคใต้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก นำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจในแต่ละพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำที่ใด



ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ ประธานภูมิภาคภาคกลาง สธทท. กล่าวว่า ในส่วนของภาคกลางนั้น ก็ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ กัน อย่างเช่น อาทิ คาราวานรถบิ๊กไบค์ เมืองลพบุรี ไม่ได้มีแต่ลิง วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 นำเที่ยวชมพระนารายณ์ราชนิเวศน์ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์  ตึกรับแขกเมืองสไตล์เปอร์เซีย พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติลพบุรี  บ้านหลวงรับราชทูต พระที่นั่งไกรสรสีหราช วัดตองปู และวัดไลย์, ไหว้พระให้ถูกที่ ทำพิธีให้ถูกทาง กับทริปล่องเรือไหว้พระ บวงสรวงกลางลำน้ำเจ้าพระยา วันหยุดพิเศษ วันอาสาฬหบูชา 13 กรกฎาคม 2565 ลงเรือยอดสยาม ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) อาจารย์ มุ่ย หูทิพย์ (ชวิศ ชื่นเจริญ) นำทีมบวงสรวงหอเทวาประสิทธิ์ ขอขมาพระแม่คงคา บนเรือ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ถึง "เกาะเกร็ด" นำท่านถวายเทียนพรรษา ประจำปี 2565 ณ วัดปรมัยิกาวาส วัดไผ่ล้อม และวัดเสาธงทอง สนับสนุนร้านค้าชุมชนท้องถิ่นบนเกาะ, คาราวานรถยนต์เส้นทางกรุงเทพฯ-ราชบุรี-กาญจนบุรี แดนสวรรค์ตะวันตก อีต่อง ทองผาภูมิ และ สังขละบุรี วันที่ 22-24 กรกฎาคม 2565 ขอพรกับ "เทพเจ้าแห่งเมืองกำแพงแสน" หลวงปู่แผ้ว ปวโร เที่ยวบ้านอีต่อง หรือบ้านปิล๊อก หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์น่าค้นหา  ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่เนินช้างศึก เนินเสาธงช่องเขามิตรภาพ ไทย-พม่า และชุมชนปิล๊อก กราบสักการะหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ทำบุญใส่บาตรกับชาวบ้านชาวมอญที่สะพานมอญ ล่องเรือชมโบสถ์และหอระฆังของเมืองบาดาล (โบสถ์จมน้ำ) ฯลฯ



คุณโสดารินทร์  ธนเนืองโรจน์ ประธานภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สธทท. กล่าวว่า สำหรับภาคอีสาน ก็มีเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจหลายเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-ยโสธร-อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ วันที่ 2-5 กรกฎาคม 2565 นำเที่ยววัดป่าวังน้ำเย็น หอโหวด101 สักการะพระยืน วัดบูรพาภิรามธาตุก่องข้าวน้อย พิพิธภัณฑ์พญาคักคาก วัดอำนาจ วัดพระเหบาเทพนิมิต วัดสิรินธรภูพร้าว วัดถ้ำคูหาสวรรค์ แม่น้ำสองสี Nature walkway  โรงไฟฟ้าโซล่สเซลล์ไฮบริด สวนทุเรียนแสงแรก อ.น้ำยืน วัดป่าคีรีบรรพต ผามออีแดง สวนทุเรียนภูเขาไฟ อ.ขุนหา กราบสรีระหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา, เสน่ห์วันวานอีสานใต้ อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ วันที่ 3-6 กรกฎาคม 2565 ฯลฯ



คุณกัญญ์วรัณ แผ่พร รองประธานภูมิภาคภาคเหนือ สธทท. กล่าวว่า ภาคเหนือของเราก็มีเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสัมผัส รวมทั้งประเพณี วัฒนธรรมที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ วันที่ 29-31 กรกฏาคม 2565 นมัสการขอพรหลวงพ่อกวย ณ วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ไหว้พระธาตุลำปางหลวง ขอพรท้าวเวสสุวรรณโณ วัดศรีล้อม นั่งรถม้าชมเมืองลำปาง ตะลุยเมืองรองลำพูน ชมสะพานขาวทาชมภู สักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ไหว้พระธาตุหริกุญไชย เที่ยวถนนคนเดินประตูท่าแพ กราบสักการะพลวงพ่อทันใจ  วัดดอยคำ ชมทุ่งดอกไม้เมืองหนาว เที่ยวเนโกะเอม่อนคาเฟ่ คาเฟ่ที่จำลองบรรยากาศญี่ปุ่น ช้อปปิ้งที่กาดทุ่งเกวียน, งานประเพณีการตักบาตรเป็งปุ๊ด หรือ ตักบาตรเที่ยงคืนพระอุปคุต วันที่ 12 - 14 สิงหาคม 2565 วัดสระบ่อแก้ว จังหวัดแพร่ ฯลฯ



คุณชนัฐมนทน์  เงินวิวัฒน์กูล ประธานภูมิภาาคใต้ สธทท. กล่าวว่า เส้นทางภาคใต้ ทั้ง 14 จังหวัดนั้น เราจะเน้นเมืองรองอย่าง จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง ระนอง สตูล นครศรีธรรมราช พัทลุง และชุมพร โดยเราตระหนักถึงการมีส่วนร่วมและมีส่วนในการเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างสังคมให้เข้มแข็ง โดยรูปแบบของการเดินทางจะเป็นการเที่ยวช่วงวันธรรมดา การท่องเที่ยวนอกฤดูกาล เที่ยวงานประเพณีต่างๆ อย่างช่น ชุมพร-เทศกาลล่องแพพระโต๊ะ พัทลุง-ล่องแก่งหนานมดแดง การแสดงตะลุง มโนราห์ นครศรีธรรมราช-วัดมหาธาตุ คีรีวง วัดเจดีย์  นราธิวาส-ล่องเรือฮาลาบาลา ไหว้องค์พระพิฆเนศ การแข่งขันเรือกอ และจังหวัดตรัง-เที่ยวเขาจมป่า เทศกาลหมูย่าง ติ่มซำอาหารเช้า เป็นต้น รวมทั้งการส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชน การอุดหนุนสินค้าพื้นเมือง สินค้าโอท็อป เป็นต้น เน้นอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ประจำถิ่น หรือเส้นทางด้านอาหาร Gastronomy การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  Sustainable ลดคาร์บอน  ทั้งนี้ ภูมิภาคภาคใต้ คำนึงถึงเพื่อนสมาชิกในพื้นที่เส้นทางท่องเที่ยว และร่วมพัฒนางานบริการสู่มาตรฐานสากล ในแนวทางเดียวกันกับอีกทั้ง 4 ภาค



นายพูลผล  แพทอง ประธานภูมิภาคภาคตะวันออก สธทท. ได้กล่าวถึงว่า การจัดงาน TTPA Travel Mart ในพื้นที่ภาคตะวันออก วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ที่จะถึงนี้ว่า เป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจและส่งเสริมการขายที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย 5 ภูมิภาค (Sellers) ได้นําเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเจรจาธุรกิจภายในพื้นที่การจัดงาน โดยนําเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยมิติใหม่จากสินค้าและบริการ ด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ผ่านการสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวไทย มีกิจกรรมการสาธิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน เช่น สินค้าด้าน BCG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าท่องเที่ยวชุมชน หรือสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ตรงกับ Amazing Thailand New Chapters ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนําเที่ยวทั่วราชอาณาจักรไทย (Buyers) จำนวน 100 ราย จาก 5 ภูมิภาค ผู้ขาย (Sellers) ประมาณ 50 ราย เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ กลุ่ม MICE กลุ่ม Entertainment กลุ่ม Hospital/Clinic/Health and Wellness กลุ่ม Hotel and Resort กลุ่ม Tour Operator/Travel Agent กลุ่ม Transportation/Carrier กลุ่ม Wedding และธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนสายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 50 สำนัก เข้าร่วมกิจกรรมด้วย


นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์  นายก สธทท. กล่าวเพิ่มเติมซ๋ษ ส่วนกิจกรรมต่อเนื่องที่คาดว่าจะจัดหลังจากโครงการนี้คือ การจัดงาน TTPA Travel Mart ในทุกภูมิภาค อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง การจัดนำเที่ยวในเส้นทางท่องเที่ยวที่ไม่เป็นที่นิยม อาทิเช่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม กำแพงเพชร เป็นต้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วไป การทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ประเทศอาเซี่ยน เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ค้นหาชุมชนท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาค และช่วยกันบูรณาการ ให้เกิดเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับ และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้



สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยจากโควิค-19 ทาง สธทท. ได้กำหนดมาตราการเบื้องต้น สำหรับผู้ร่วมเดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ได้จัดชุด Hygiene Travel Kit ประกอบด้วย แก้วน้าสเปรย์แอลกอฮอล์ ทิชชูแอลกอฮอล์ ระหว่างการเดินทางบนรถจะไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มเพื่อลดการเปิดหน้ากากอนามัย ให้ผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการนำนักท่องเที่ยวเข้าสถานที่ท่องเที่ยวพื้นที่ที่เสี่ยง และแออัด เพื่อลดความเสี่ยง ส่วนร้านอาหารต้องจัดช้อนกลางสำหรับทุกท่าน เพื่อลดการสัมผัสร่วม


ผู้สนใจสามารถรับข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Page Facebook สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย เว็บไซต์ www.thaitourism.or.th หรือโทรศัพท์สายตรงสอบถามเส้นทางท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคได้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ดังต่อไปนี้

นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และประธานโครงการ เที่ยวไทย ๕ ภาค กับ  สธทท. โทร. 081-251-2207

ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ ประธานภูมิภาคภาคกลาง สธทท. โทร 098-564-6145 

คุณชนัฐมนทน์  เงินวิวัฒน์กูล  ประธานภูมิภาคภาคใต้ สธทท. โทร 061-545-0956

คุณกัญญ์วรัณ แผ่พร รองประธานภูมิภาคภาคเหนือ สธทท. โทร. 064-989-2462

         คุณโสดารินทร์  ธนเนืองโรจน์ ประธานภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โทร. 062-669-6441

          คุณพูลผล  แพทอง ประธานภูมิภาคภาคตะวันออก สธทท. โทร. 084-104-7799

#Amazingยิ่งกว่าเดิม

#AmazingThailand

#สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย

 

 

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"      ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมัน...