วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี


      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนนำทีมลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ  จำนวน 11 ราย  คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 218,260 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นแปดพันสองร้อยหกสิบบาทถ้วน) เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างชีวิต  ให้กับสตรีได้นำวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย  นางสาวกุรุพิน สิงห์น้อย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสตรี ผู้แทนกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ นางศิริกานต์ ชาวห้วยหมาก ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านสองแคว ร่วมในพิธี พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชน ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก ณ  ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันพุธที่ 28 สิงหาคม 2567


       นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อย มีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ โดยมูลนิธิฯ มุ่งหวังในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างชีวิต  ให้กับสตรีได้นำวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป  โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูนลำปาง เชียงราย และจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้ดำเนินการมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีไปแล้ว 6 แห่ง จำนวน 52 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,018,679 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นแปดพันหกร้อยเจ็ดสิบเก้าบาทถ้วน)


     ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่างๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต#

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยแผนกอาสาสมัครฯ จัดทีมอาสมัครฯ ช่วยเหลือประชาชน กระจายกำลัง จัดตั้ง “โรงครัวเคลื่อนที่" จัดทีมบรรเทาทุกข์ช่วยชาวสุโขทัย.. สู้ภัยน้ำท่วม

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยแผนกอาสาสมัครฯ จัดทีมอาสมัครฯ

ช่วยเหลือประชาชน กระจายกำลัง จัดตั้ง “โรงครัวเคลื่อนที่"  

จัดทีมบรรเทาทุกข์ช่วยชาวสุโขทัย.. สู้ภัยน้ำท่วม


    นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยจังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ จัดทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดยนายสำอางค์ สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร,นายกฤษณะ ชาติเอกชัย หัวหน้าผู้ควบคุมฯ ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ประกอบอาหารปรุงสุก พร้อมจัดเตรียมน้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรทุกรถและเรือ ลงพื้นที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ อาทิ บ้านท่าทอง และบ้านวังทอง อำเภอสวรรคโลก หมู่บ้านคลองกระจง คลองเกษม วังใหญ่ อำเภอศรีโสภา พร้อมทั้งอพยพประชาชน รวมถึงผู้ป่วยออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย  โดยจัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ ณ วัดโสภาราม อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567


    ทั้งนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ  ต่อไป 

     สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418


ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

สถาปัตยฯ สจล. ลาดกระบัง เปิดเวทีระดับโลกร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านงานออกแบบ Design for a Better World ในงาน AAD Global Forum

สถาปัตยฯ สจล. ลาดกระบัง เปิดเวทีระดับโลกร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านงานออกแบบ Design for a Better World  ในงาน AAD Global Forum


      คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (สจล.) จัดงานเสวนา AAD Global Forum: Design for a Better World เวทีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ นักออกแบบที่มีชื่อเสียง นักคิดที่ทรงอิทธิพล วิทยากรคนสำคัญ อาทิ Professor Dr.Don Norman นวัตกรผู้บุกเบิกพัฒนาการออกแบบที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง Human Centered Design, Associate Professor Jeffrey Shumaker นวัตกรผู้ริเริ่มออกแบบเมืองโดยให้ความสำคัญกับการวางผังเมืองที่คำนึงถึงผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก,  ลMr.Shigeru Ban นวัตกรผู้พัฒนาการใช้วัสดุกระดาษรีไซเคิลในงานสถาปัตยกรรมสำหรับการบรรเทาภัยพิบัติและส่งเสริมความยั่งยืน ร่วมด้วย ม.ล.วรุตม์ วรวรรณ สถาปนิกแห่งวิน วรวรรณ (VVA) เชี่ยวชาญในโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์และความรับผิดชอบต่อสังคม การใช้วัสดุในท้องถิ่น ได้รับการยอมรับในระดับสากล, คุณสนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ ศิลปินที่สนใจพื้นที่ประติมากรรม และผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Sanitas มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ดร.ณรงค์วิทย์ อารีมิตร Executive Director บริษัท สถาปนิก 49 จํากัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมอาคาร Building Environment Design เน้นการวิจัยพัฒนา และสร้างนวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อความยั่งยืน และ Pre-Record



โดย คุณนิธิ สถาปิตานนท์ สถาปนิกร่วมสมัยยุคบุกเบิกระดับตำนานของประเทศไทย หนึ่งในกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของประเทศไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษ ได้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้เชิงลึก จากหัวข้ออภิปรายในงาน อาทิ การออกแบบกับการปรับปรุงคุณภาพชีวิต, การออกแบบกับการรักษาโลก, การออกแบบเป็นกลไกสู่โลกที่ดีกว่า ซึ่งแต่ละช่วงของการอภิปรายมุ่งเน้นหลักปฏิบัติด้านการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับมนุษยชาติเป็นศูนย์กลางของความยั่งยืน หัวใจสำคัญของการพัฒนาระดับโลก โดยการออกแบบเป็นกลไกสำคัญ แสดงให้เห็นถึงที่มาที่ไปของผลกระทบทางวิชาชีพ การทำงานด้านการออกแบบได้อย่างบูรณาการ เพื่อให้ได้งานที่ตอบโจทย์และสร้างสรรค์ที่เข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนได้


         ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ร่วมเปิดงาน AAD Global Forum: Design for a Better World พร้อมด้วย ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. คณะผู้บริหาร และผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก จัดขึ้น ณ อาคารหอประชุม ศ.ประสม รังสิโรจน สจล. เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567  

ติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial  และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th  และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่  https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000


สจล. จัดทำโครงการปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติลานอุทยาน พระจอมเกล้าและภูมิทัศน์โดยรอบ

สจล. จัดทำโครงการปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติลานอุทยาน

พระจอมเกล้าและภูมิทัศน์โดยรอบ

        เนื่องในวโรกาสครบรอบ 65 ปี ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างล้นพ้น จึงได้มีความประสงค์ปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติ ลานอุทยานพระจอมเกล้า และภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อพัฒนา “อาคารหอพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช" ให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ การวิจัย และนวัตกรรมที่ทันสมัยตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษา บุคลากร และสังคม ตลอดจนเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของสถาบันให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยปรับปรุงภูมิทัศน์  ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังนี้

• สร้างหอพระและองค์พระนิรันตราย เพื่อประดิษฐานพระนิรันตราย ขนาดหน้าตัก 41.09 นิ้ว เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ในฐานะพระพุทธรูปสำคัญของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อธำรงรักษาถึงประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และคงความสำคัญต่อสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป ณ อาคารเรือนไทย

• หอเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4 ปรับปรุงเพื่อให้การศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และครุศาสตร์อุตสาหกรรม รวมทั้งทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วย พระนาม “พระจอมเกล้า” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมราชลัญจกร “พระมหามงกุฎ” ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นมหามงคลยิ่งในกาลต่อมาจวบจนถึงปัจจุบัน

• หอประวัติ สจล. ปรับปรุงพื้นที่อาคารฝั่งขวา ซึ่งแต่เดิมคือพื้นที่จัดแสดงประวัติของสถาบัน ให้มีความทันสมัยทั้งด้านเนื้อหาผลงานด้านนวัตกรรม วิชาการ และผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบัน โดยใช้เทคนิคมัลติมีเดียในการนำเสนอให้ทันสมัย เพื่อให้เป็นพื้นที่รวบรวมเกียรติประวัติและผลงานอันทรงคุณค่าของสถาบันให้เป็นที่เรียนรู้ ของนักศึกษา บุคลากร ศิษย์เก่า และผู้สนใจ เพื่อระลึก และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมต่าง ๆ สู่สังคมตามวิสัยทัศน์ The World Master of Innovation

• ลานนวัตกรรมดาราศาสตร์ ทำการปรับพื้นลานอุทยานพระจอมเกล้า เป็นแผนที่ฟ้า ตามมาตรฐานของสมาคมดาราศาสตร์ไทย และแผนที่ฟ้าตามหลักสากล และกำหนดตำแหน่งดาวให้ตรงกับวันที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงคำนวณการเกิด “สุริยุปราคาเต็มดวง” ได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี โดยทรงเชิญ เซอร์ แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์ มาเป็นประจักษ์พยาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 บริเวณ หว้ากอ ประจวบคีรีขันธ์  และให้เป็นพื้นที่กิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเป็น Landmark ที่สวยงาม สามารถมองเห็นจากเครื่องบินที่บินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย

       ทั้งนี้ อาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติและลานอุทยานพระจอมเกล้าเป็นดั่งสถานที่สำคัญประจำสถาบันในการจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ รวมถึงประการสำคัญเพื่อธำรงไว้ซึ่งความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตลอดจนการมีห้องจัดแสดงประวัติการก่อตั้งสถาบันฯ และผลงานที่โดดเด่นจากคณาจารย์ นักศึกษา ทั้งด้านงานวิจัย วิชาการ นวัตกรรม งานบริการสังคม

         ขอเชิญผู้สนใจร่วมสมทบทุนในการพัฒนาอาคารตามโครงการปรับปรุงดังกล่าวได้ที่ช่องทางรับบริจาค ชื่อที่บัญชี  : “โครงการปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติลานอุทยานพระจอมเกล้า และภูมิทัศน์โดยรอบ” ธนาคารกรุงไทย สาขาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง เลขที่บัญชี : 693-0-66026-4ผู้บริจาคจะได้รับคืนภาษี 200% และได้รับพระนิรันตราย(จำลอง) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่คุณกรองแก้ว สกุลตศรี  โทรศัพท์ 02-329-8282, 084-328-1656 อีเมล์ krongkaew.sa@kmitl.ac.th



วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567

PMCU เชิญชวนบริจาคคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเลต ปริ้นเตอร์ โทรทัศน์ที่ยังใช้ได้ เพื่อช่วยเหลือการศึกษาโรงเรียนที่ประสบอุทกภัย จังหวัดน่าน

PMCU เชิญชวนบริจาคคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเลต ปริ้นเตอร์ โทรทัศน์ที่ยังใช้ได้ 

เพื่อช่วยเหลือการศึกษาโรงเรียนที่ประสบอุทกภัย จังหวัดน่าน

        ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ  สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ (PMCU)  ส่งต่อความห่วงใยให้ชาวน่านด้วยการเชิญชวนร่วมแบ่งปันเพื่อการศึกษา ให้สังคมแข็งแรงอย่างยั่งยืน ในโครงการ “PMCU Sharing Community for Nan”  มาร่วมกันบริจาคคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเลต ปริ้นเตอร์ โทรทัศน์ที่ยังใช้ได้เพื่อช่วยเหลือการศึกษาโรงเรียนที่ประสบอุทกภัย จังหวัดน่าน

   

        โดยร่วมบริจาคเพื่อให้โรงเรียนสามารถใช้ในการเรียนการสอนได้ทันที ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 กันยายน  2567 ณ จุดรับบริจาค

• ศูนย์การค้าสยามสแควร์วันเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โทร. 02-255-9994

• สยามสเคป เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โทร. 063-393-8789

• จามจุรีสแควร์ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น G  โซนสำนักงาน โทร. 02-610-5454

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ททท. จัดกิจกรรม TAT Stakeholder Management Day 2024 เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย

ททท. จัดกิจกรรม TAT Stakeholder Management Day 2024 

เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย 

บริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วน

เสีย 

สร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน


      การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม TAT Stakeholder Management Day 2024เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ ททท. ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 83 หน่วยงาน เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย บริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมด้วย นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ นายสมชาย ชมภูน้อยผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. ศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ (บาส) Influencer ท่องเที่ยวเจ้าของเพจ Go Went Go ร่วมเสวนา ดำเนินรายการโดย นายวิทย์ สิทธิเวคิน ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น


      นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยได้กำหนดกลยุทธ์กระตุ้น Demand ขยายฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพควบคู่กับการยกระดับ Supply เสริมศักยภาพของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตรทุกภาคส่วนแบบ 360 องศา (Partnership 360o) จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม TAT Stakeholder Management Day 2024 เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นการบริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสร้างการรับรู้การเป็นองค์กรที่มุ่งตอบสนองประโยชน์และสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดจนสร้างจิตสำนึกการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมครั้งนี้ ททท. ได้เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ ททท. ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 83 หน่วยงาน ในการเข้าร่วมกิจกรรมฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็นพร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อันนำไปสู่การพัฒนาสัมพันธภาพในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ททท. ในอนาคต ซึ่งถือเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายตามทิศทางการดำเนินงานของ ททท. ในปี 2568 ต่อไป


    กิจกรรมภายในงานพบกับเวทีเสวนาในหัวข้อ “การสร้างสมดุลการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวผ่านมุมมองใหม่และมุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างมีส่วนร่วม” ร่วมเสวนาโดย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. และการแลกเปลี่ยนแนวคิดการทำงานร่วมกับ Partnership ในการส่งเสริมการตลาดเมืองน่าเที่ยว  ศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีผลงานวิชาการด้านการท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยว และ บาส ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ Influencer ท่องเที่ยวชื่อดังเจ้าของเพจ Go Went Go ผู้มีประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว ดำเนินรายการโดย นายวิทย์ สิทธิเวคิน ปิดท้ายด้วยกิจกรรมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาสัมพันธภาพผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ททท. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมแสดงความคิดเห็น ความต้องการ ความหวังที่มีต่อการดำเนินงานด้านการบริหารความสัมพันธ์กับ ททท.

     ปัจจุบัน ททท. ได้มีการพัฒนาการบริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระยะยาวของ ททท. ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญทั้งหมด 7 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มลูกค้าและผู้ใช้บริการ 2. กลุ่มผู้กำกับนโยบายและภาครัฐ 3. กลุ่มชุมชนและสังคม 4. กลุ่มพันธมิตร 5. กลุ่มคณะกรรมการ 6. กลุ่มพนักงาน และ 7. กลุ่มคู่เทียบหรือคู่แข่งขัน โดยดำเนินการบริหารความสัมพันธ์ด้วยการรับฟังความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดประเด็นสำคัญ (Key Issue) พร้อมตอบสนองตามประเด็นสำคัญผ่านการทบทวนนโยบาย ยุทธศาสตร์ด้านบริหารความสัมพันธ์รวมทั้งกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และทำการติดตามการดำเนินงานเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อันนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนายกระดับความพึงพอใจตลอดจนสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Engagement) อย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางการบริหารความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนของ ททท. ได้ที่เว็บไซต์ https://www.tat.or.th/th/about-tat/market-plan หรือสอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์: (66) 2 250 5500 ต่อ 1640-4


วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด 

จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย 

ช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิต

      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมแผนกสาธารณภัย และแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ ฝ่ายปฏิบัติการ และลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด  ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนายายอาม อำเภอท่าใหม่ อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด รวมทั้งสิ้น 2 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภครวมจำนวน 2,500 ชุด ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2567


        นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 2 รายๆ ละ 20,000 บาท  รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 1,165,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนหกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี  และสมาคมตราดพุทธสงเคราะห์ “พ่งไล้หลักเซียวเกาะ” จังหวัดตราด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ


         เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถประสานรายละเอียดเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โทร 0-2225-0020 เวลา 08.30-16.30 น.

ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน



พม. ชวนเที่ยวงาน “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

พม. ชวนเที่ยวงาน “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” 

อุดหนุนผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน-สินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง


       นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดงานมหกรรมจัดแสดงผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนและสินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ภายใต้แนวคิด “ใต้ร่มพระบารมี อัตลักษณ์วิถีชาติพันธุ์ วิสาหกิจชุมชนสร้างสรรค์ ผลักดันสวัสดิการยั่งยืน” โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน  และได้รับเกียรติจากหม่อมราชวงศ์ปณิธาน จรูญโรจน์ มาร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567



      นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ ด้วยการดูแลให้มีเกียรติ ศักดิ์ศรี งานอาชีพ และรายได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคง ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนมิติความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้าง “หลักประกันและความมั่นคงในชีวิต” คือ การสนับสนุนทางสังคมและโอกาส การมีงานทำและมีรายได้ และการจัดสวัสดิการสังคม โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และทุนทางสังคมเป็นแกนกลางในการพัฒนาสังคม เห็นได้จากการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวง พม. ภายใต้ “นโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร” สำหรับราษฎรบนพื้นที่สูงล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการทรงงานและมีพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน



         และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาอาชีพ เพิ่มรายได้แก่ราษฎรบนพื้นที่สูง และการธำรงรักษาและฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมให้แพร่หลาย กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จึงได้จัดงานมหกรรมจัดแสดงผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนและสินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ภายใต้แนวคิด “ใต้ร่มพระบารมี อัตลักษณ์วิถีขาติพันธุ์ วิสาหกิจชุมชนสร้างสรรค์ ผลักดันสวัสดิการยั่งยืน”



       งาน “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในครั้งนี้ ทุกท่านจะได้สัมผัสกับความงดงามของผลิตภัณฑ์จากกลุ่มชาติพันธุ์ที่หาดูได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งทอที่ประณีต การปักที่งดงาม การเย็บและตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลาย สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง สำหรับไฮไลท์ของงานวันนี้ คือการแสดงแฟชั่นโชว์ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง  โดย ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. คุณอาภาพรรณ โจโควิดจาจา คุณรัดเกล้า สุวรรณคีรี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดี พส. พร้อมคณะผู้บริหาร และดารานักแสดง อาทิ ทับทิม - อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ แม็กกี้-อาภา ส้ม - ธัญสินี พรมสุทธิ์ ตะวัน - ณวินวิชญ์ กิตติชนวิทย์ เปียโน - ณิชาภัทร และ หลุยส์ เฮส รวมทั้งเจ้าแม่แฟชั่นอย่างคุณธันยลักษณ์ พรหมมณี และอินฟลูเอนเซอร์อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ  นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” และ “อัตลักษณ์วิถีชาติพันธุ์” เป็นการจัดแสดงผ้ากลุ่มชาติพันธุ์จากอดีตสู่ปัจจุบัน จุดสาธิตการผลิตสินค้าชุมชนบนพื้นที่สูง การจัดจำหน่ายสินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง เวทีเสวนา “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนพื้นที่สูง สู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่” และโซน “วิสาหกิจชุมชนสร้างสรรค์” เป็นการจัดแสดงผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน และสินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง เช่น เสื้อผ้ากลุ่มชาติพันธุ์ กาแฟและโกโก้ เครื่องประดับเงิน และหัตถกรรม เป็นต้น



       นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ชุมชนบนพื้นที่สูง เป็นถิ่นอาศัยของราษฎรบนพื้นที่สูง ซึ่งมีอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี และผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่น ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังนั้นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูงในมิติด้านอาชีพและรายได้ จึงถือเป็นหลักประกันสำคัญในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี  ซึ่งงานครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นำมาสู่การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนฐานราก ผ่านการจัดตั้ง “กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” และการรวมกลุ่มให้เกิดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่ ทำให้วัยทำงานเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญ ในการดูแลครอบครัวและชุมชน สอดคล้องกับการส่งเสริมให้กลุ่มชาติพันธุ์มีเกียรติ ศักดิ์ศรี งานอาชีพ และรายได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคง



      ในนามของกระทรวง พม. ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่าย กลุ่มอาชีพ ผู้ประกอบการกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน รวมไปถึงกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ได้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ราษฎรบนพื้นที่สูง ซึ่งกระทรวง พม. เชื่อมั่นว่า แนวทางการรวมกลุ่มด้านรายได้และอาชีพ ที่ทำให้เกิดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่เช่นนี้ จะสามารถขยายผลความสำเร็จได้เป็นอย่างดี และขอใช้โอกาสนี้ เรียนเชิญทุกท่านได้เข้ามาร่วมชม และร่วมกันสนับสนุนสินค้าของพี่น้องราษฎรบนพื้นที่สูง ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 สิงหาคม 2567 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน #สินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงาน “Thai Rice Networking Forum 2024”

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงาน “Thai Rice Networking Forum 2024” วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 ณ ห้องเวิลด์บอลรูม โรงแรม เซ็นทา...