วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนซอยสุคันธาราม 23 กรุงเทพฯ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค 

บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนซอยสุคันธาราม 23 กรุงเทพฯ


      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ  นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนซอยสุคันธาราม 23 เขตดุสิต กรุงเทพฯ รวมจำนวน 14 ครอบครัว 30 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว 8 ชุด รายบุคคล 6 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 134,000 บาท ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ ร่วมมอบเงินสด ครอบครัวละ 500 บาท และพุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมการช่วยเหลือทั้ง 4 องค์กรคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 159,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) โดยมี อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร โอภาสวงศ์ และ นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ณ บริเวณชุมชนซอยสุคันธาราม 23 เขตดุสิต กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568



       ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”



ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

สจล. จับมือภาคเอกชน เปิดตัวหลักสูตร "WELLxPRO: Touch to Heal – Learn to Grow"

สจล. จับมือภาคเอกชน เปิดตัวหลักสูตร "WELLxPRO: Touch to Heal – Learn to Grow" 

มุ่งสร้างอาชีพที่ยั่งยืนและส่งเสริมสุขภาวะที่ดี

     สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร “WELLxPRO by SPAYA: Touch to Heal – Learn to Grow” อย่างเป็นทางการ ซึ่งหลักสูตรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการศาสตร์แห่งการบำบัดด้วยสปาเข้ากับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพ สร้างรายได้ และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน 

      รองศาสตราจารย์ ดร.ยลพัชร์  อารีรบ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สจล. กล่าวว่าหลักสูตรนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง สจล. บริษัทธรรมธุรกิจ และโรงเรียนธัญญ่าสปาเซ็นเตอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะผสมผสานศาสตร์การบำบัดด้วยสปาเข้ากับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สนใจให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและเวลเนส รองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปต่อยอดสร้างอาชีพและรายได้ได้อย่างยั่งยืน

       รองศาสตราจารย์ ดร.จรสวรรณ โกยวานิช รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทรัพย์สินและความยั่งยืน สจล. กล่าวว่า การพัฒนาทักษะอาชีพ และการดูแลสุขภาพไม่อาจแยกออกจากกันได้อีกต่อไป WELLxPRO by SPAYA จึงเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงาน ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาทั้ง “คน” และ “คุณภาพชีวิต” ให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน และถือเป็นตัวอย่างของการบูรณาการองค์ความรู้จากศาสตร์แห่งสปาและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม สู่การสร้างทักษะอาชีพจริงในโลกปัจจุบัน ไม่ได้เป็นแค่หลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพ แต่เป็นแพลตฟอร์มแห่งการ “เยียวยา” ทั้งในมิติของร่างกาย จิตใจ รายได้ และโอกาสชีวิต

        นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ความเป็นมาและเป้าหมายของความร่วมมือ” ซึ่งได้รับเกียรติจากตัวแทนจากทั้งสามหน่วยงานมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวคิด เบื้องหลัง และวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาโครงการ WELLxPRO โดยมุ่งเน้นการสร้างหลักสูตรที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสายงานสปาและการบำบัด

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ สจล. ได้ทาง Facebook: https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์: https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000





วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ททท. ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับ “โอปอล - สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ 2025 ผู้คว้ามงกุฎประวัติศาสตร์กลับสู่ประเทศ

Grand Celebrations ฉลอง Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

ททท. ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับ “โอปอล - สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ 2025 ผู้คว้ามงกุฎประวัติศาสตร์กลับสู่ประเทศไทย



      เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับ “น้องโอปอล” คุณสุชาตา ช่วงศรี อย่างอบอุ่น หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยจากการเข้าร่วมการประกวด Miss World 2025 ณ ประเทศอินเดีย พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยด้วยการคว้ามงกุฎ Miss World มาครองได้เป็นครั้งแรกอย่างสง่างาม



        น้องโอปอลถือเป็นแบบอย่างของหญิงสาวไทยยุคใหม่ ที่เปี่ยมไปด้วยความงดงาม ความสามารถ และปัญญาอันเฉียบคม พร้อมด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นในการอุทิศตนเพื่อสังคมและประเทศชาติ การได้รับตำแหน่ง Miss World ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของคนไทยทั้งประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสอันสำคัญที่ประเทศไทยจะได้ส่งเสียงถึงเวทีโลกให้ได้รับรู้ถึงเสน่ห์ของแผ่นดินไทย ทั้งในด้านธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และน้ำใจไมตรีของประชาชนไทย



         ททท. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์และศักยภาพของประเทศไทยในระดับสากล พร้อมให้การสนับสนุนคุณโอปอลในทุกภารกิจ เพื่อยกระดับชื่อเสียงของชาติ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างยั่งยืน

#AmazingThailand #MissWorld2025 #MissWorld2025Thailand

#GrandCelebrations

#AmazingThailandGrandTourismandSportsYear2025



วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร



      พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร ท.จ.ว.,ม.ช..ม.ว.ม. ณ ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันพุธ ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘



       สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร และเสด็จ ฯ ไปทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์



      ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร (เดิมหม่อมเจ้าพันธุ์สวลี ยุคล) ถึงแก่อนิจกรรม ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ สิริอายุ 91 ปี ท่านเป็นพระมารดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และหม่อมหลวงสราลี กิติยากร รวมทั้งยังเป็นพระอัยยิกา (ยาย) ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา



    กำหนดสวดพระอภิธรรม “ท่านผู้หญิงพันธ์ุสวลี กิติยากร“ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร วันที่ 12-17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 19.00 น.


*** ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2568 เป็นต้นไป งดรับพวงหรีด และท่านใดที่สนใจสมทบทุนปัจจัยเข้ามูลนิธีผึ้งหลวงอัศวิน ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงพันธ์ุสวลี กิติยากร ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และช่วยเหลือสาธารณะประโยชน์ ให้เอื้อประโยชน์อย่างสูงสุด แก่ผู้ร่วมบุญ ในการอุทิศบุญถวายท่านผู้หญิงพันธ์ุสวลี กิติยากร จะมีการรับบริจาคบริเวณหน้างานสวดพระอภิธรรม หรือสามารถโอนเข้า มูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน ชื่อบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 6614032801 

ภาพ ... วายุ พุกโฉมงาม

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

นครพนมเปิดเส้นทาง "ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด" ดันท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมนครพนม

นครพนมเปิดเส้นทาง "ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด"

ดันท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมนครพนม

      กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมใหญ่ "ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด" ณ จังหวัดนครพนม เปิดประตูสู่การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย อ.คฑา ชินบัญชร ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และประธานกรรมการมูลนิธิสำนึกบุญคุณแผ่นดินไทย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนกว่า 200 คนเข้าร่วมคับคั่ง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568

      กิจกรรม "ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด" เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดนครพนมที่ได้รับเลือกเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ เนื่องจากเป็น "เมืองแห่งพระธาตุ" ที่มีพระธาตุประจำวันเกิดครบทั้ง 7 วัน 8 องค์ ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธา

      โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ อาทิ

- พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568,

- กิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ "ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ใส่ผ้าไทย นั่งสาด ตักบาตรริมโขง", 

และ กิจกรรมหลัก "ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด" ซึ่งมีการเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศาสนาในจังหวัดนครพนมอย่างเป็นทางการ

       นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการสักการะพระธาตุประจำวันเกิด 7 วัน 8 พระธาตุ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเครือข่ายวัฒนธรรมในจังหวัดเชื่อมโยงเส้นทางบุญ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน

       โครงการ "จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา" ไดกำหนดจัดกิจกรรมใน 4 เส้นทางหลัก ได้แก่ เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ, เส้นทางตามรอยพระเถราจารย์, เส้นทางความเชื่อและศรัทธาแห่งลุ่มน้ำโขง, และเส้นทางในมิติศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ โดยจังหวัดนครพนมโดดเด่นในฐานะเมืองที่มีพระธาตุประจำวันเกิดครบถ้วน ซึ่งเป็น "ทุนทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า" ที่สามารถนำมาต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

        โครงการนี้ถือเป็นการนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรมมาขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติจริง โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา สร้างความเชื่อมโยงระหว่างศาสนสถาน โบราณสถาน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างรายได้แก่ชุมชน ส่งเสริมอัตลักษณ์ และอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป

         จังหวัดนครพนมมุ่งมั่นที่จะเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมในระดับประเทศ พร้อมเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียงในกลุ่ม "สนุก" ได้แก่ สกลนคร และมุกดาหาร เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับชุมชนและประเทศชาติ


สิริวัฒนาเชสเชียร์เลี้ยงขอบคุณคณะพยากรณ์

สิริวัฒนาเชสเชียร์เลี้ยงขอบคุณคณะพยากรณ์

      คุณหญิงตรึงใจ อิฐรัตน์ ประธานมูลนิธิสิริวัฒนาเชสเชียร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อขอบคุณคณะนักพยากรณ์ของมูลนิธิฯ โดยมี ม.ล. มลสุดา ชำนิประศาสน์  ธนาภรณ์ เกษชุมพล ผศ.พรศิริ อัญญานุภาพ เพ็ญวดี เพียรอนุกูล และ อภิญญา สุทธิสาร คณะกรรมการมูลนิธิฯ มาร่วมในงานโดยพร้อมเพรียงกัน และ มร.โรบิน ลี รองประธานและผู้จัดการทั่วไป  โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ร่วมให้การต้อนรับ ที่ห้องพาโนรามา 1  โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ 


ถอดรหัสการพัฒนากาแฟบนพื้นที่สูง สู่เวทีนานาชาติ เพื่อความยั่งยืน

ถอดรหัสการพัฒนากาแฟบนพื้นที่สูง สู่เวทีนานาชาติ เพื่อความยั่งยืน


    มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (TICA) จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการระดับนานาชาติ เรื่อง “การพัฒนาอุตสาหกรรมการปลูกและผลิตกาแฟบนพื้นที่สูง” The Sustainable Highland Arabica Coffee Industry Development เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนากาแฟอะราบิกาบนพื้นที่สูงสู่ระดับสากล และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ (UN-SDGs) ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีผู้เข้าร่วมจาก 7 ประเทศ 1 หน่วยงาน ประกอบด้วย ราชอาณาจักรภูฏาน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) รวมจำนวน 35 คน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 13 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงชนกาธิเบศรดำริ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จังหวัดเชียงใหม่


      “กาแฟอะราบิกา” หนึ่งในพืชทางเลือกที่ถูกนำมาปลูกทดแทนพืชเสพติด ตามแนวทางพระราชปณิธานของ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร รวมทั้งพัฒนาสังคม สร้างเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


      จากประสบการณ์กว่า 50 ปีที่กาแฟอะราบิกาของโครงการหลวงได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความแข็งแรง และให้ผลผลิตที่ดี มีความเหมาะสมต่อการปลูกบนพื้นที่สูงของประเทศไทย ความสำเร็จนี้ได้ถูกรวบรวมเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบศูนย์การเรียนรู้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตพร้อมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนการเรียนรู้แก่ผู้สนใจ


       หลักสูตรการเรียนรู้ “การพัฒนาอุตสาหกรรมการปลูกและผลิตกาแฟบนพื้นที่สูง” เป็นหลักสูตรเฉพาะด้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้ และความเข้าใจในหลักพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอด การพัฒนาทางเลือกอย่างยั่งยืนบนพื้นที่สูง เพื่อความมั่นคงและความสุขของราษฎรตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง และมีเป้าหมายในการส่งเสริมความเข้าใจในประวัติความเป็นมา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนบนพื้นที่สูงของประเทศไทย โดยการถ่ายทอดการเรียนรู้ผ่านการบรรยาย การศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติจริง รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน


ททท. ยกระดับท่องเที่ยวไทย ปั้นโมเดลใหม่สู่การท่องเที่ยวยั่งยืน กับเส้นทางธรรมชาติ Eco Trail @ TAT ECO PARK

ททท. ยกระดับท่องเที่ยวไทย ปั้นโมเดลใหม่สู่การท่องเที่ยวยั่งยืน  กับเส้นทางธรรมชาติ Eco Trail @ TAT ECO PARK       การท่องเที่ยวในยุคใหม่ ไม่...