วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

MILKLAB นมจากพืชอันดับ 1 ของออสเตรเลีย เปิดตัวยิ่งใหญ่ในงาน Coffee Fest 2024

MILKLAB นมจากพืชอันดับ 1 ของออสเตรเลีย  เปิดตัวยิ่งใหญ่ในงาน Coffee Fest 2024 

อวดเมนูสร้างสรรค์โดยแชมป์บาริสต้าโลก ยกระดับประสบการณ์กาแฟในไทย


           MILKLAB นมจากพืชและธัญพืชระดับพรีเมียมเจ้าของรางวัลยอดเยี่ยมจากออสเตรเลีย เปิดตัวในไทยอย่างเต็มรูปแบบในงาน Thailand Coffee Fest 2024 ระหว่างวันที่ 11-14 กรกฎาคม หลังได้รับความสำเร็จอย่างงดงาม ในงานแสดงสินค้านานาชาติ Thaifex Anuga โดยกลุ่มบริษัท Aroma ตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เชิญชวนคอกาแฟพบกับประสบการณ์แปลกใหม่ในรสชาติของกาแฟตลอด 4 วันของงาน ที่บูธ Q2 ในฮอลล์ 7 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี


          มร.ปีเตอร์ บราวน์  ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางของ MILKLAB  กล่าวถึงความน่าตื่นเต้นในการเปิดตัวทางการตลาดครั้งนี้ว่า  “เรารู้สึกยินดีมากที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ของธุรกิจนมจากพืช และธัญพืชที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย  ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบาริสต้า ผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบกาแฟทั่วไป เรามุ่งหวัง ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นว่า นมจากพืชซึ่งเป็นทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพนี้ สามารถยกระดับประสบการณ์ในการดื่มกาแฟของคุณได้อย่างไร และเปลี่ยนกาแฟแต่ละถ้วยให้เป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดาได้อย่างไร”


          MiILKLAB ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2558 และเติบโตอย่างแข็งแกร่งจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมู่บาริสต้าด้วยการสร้างนิยามใหม่ ให้กับวงการกาแฟคาเฟ่ทั่วโลก กระแสความใส่ใจในสุขภาพส่งผลให้นมอัลมอนด์ของ MILKLAB กลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่พิถีพิถันในการดื่มกาแฟในออสเตรเลีย และวันนี้ ประเทศไทยก็กำลังได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์เช่นเดียวกันนั้น


           ผลิตภัณฑ์ของ MILKLAB ปราศจากส่วน ผสมของนมจากสัตว์ ผลิตจากพืชและธัญพืชต่างๆ ซึ่งมีหลากหลายให้เลือก ได้แก่ อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง มะพร้าวและแมคคาเดเมีย แต่ละชนิดจะให้รสชาติ ในการดื่มกาแฟ ที่มี     เอกลักษณ์ แตกต่างกันไป  วันนี้ MILKLAB ได้จับมือกับ Aroma Group ผู้จัดจำหน่าย อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจกาแฟมายาวนานถึง 70 ปี มีความเชี่ยวชาญของ เป็นที่ประจักษ์ในด้านโซลูชั่น กาแฟแบบครบวงจร โดยจะทำหน้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MILKLAB ผ่านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 2,000 ราย ผู้ค้าปลีก 7,000 ราย และร้าน Aroma อีก 30 แห่ง

            นอกจากนี้ ผู้บริโภคสามารถเลือกสั่งนมจากพืชของ MILKLAB ได้ที่ Hario Café ร้านกาแฟชาวดอย Muji Café 22 แห่งที่มี MILKLAB Oat Milk เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และ Specialty Café อีกมากมายหลากแห่ง ที่เตรียมยกระดับทางเลือกในการดื่มกาแฟด้วยผลิตภัณฑ์จาก MILKLAB


            นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร บริษัท อโรมา กรุ๊ป กล่าวว่า "  กระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมของ MILKLAB   ใน งาน Thaifex เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนพัฒนา ทางการตลาดที่น่าตื่นเต้นสำหรับโลก กาแฟในประเทศไทย และเพื่อฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เราจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ MILKLAB Collab ขึ้นที่งาน Thailand Coffee Fest 2024 โดย MILKLAB จะร่วมกันนำเสนอเมนูกาแฟสุดสร้างสรรค์ ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น.”


            ไฮไลท์ของกิจกรรมเป็นการสาธิตจาก Mikael Jasin แชมป์บาริสต้าจาก 2024 World Barista Championship ที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแชมป์และบาริสต้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆ และเรียนรู้ เทคนิคการสร้างสรรค์กาแฟลาเต้ชั้นเลิศจาก @missmookxx เทรนเนอร์บาริสต้าชื่อดังจากออสเตรเลีย

             นัดนี้พลาดไม่ได้ พบกันที่ Coffee Fest Thailand วันนี้ - 14 กรกฎาคม เพื่อสัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตของกาแฟ กับนมจากพืชระดับพรีเมียมของ MILKLAB 

รายละเอียดเพิ่มเติม/ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม ได้ที่เว็บไซด์  https://thailandcoffeefest.org/register

                                                                             

                                                                                                                

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เริ่มแล้ว งาน “COMMART MEGATECH” สัมผัส AI PC ของจริง พร้อมอัดฉีดแจก คอมมาร์ต Digital Wallet 10,000 บาท!

เริ่มแล้ว งาน “COMMART MEGATECH” สัมผัส AI PC ของจริง 

พร้อมอัดฉีดแจก คอมมาร์ต Digital Wallet 10,000 บาท!

มั่นใจกระตุ้นยอดขายกลางปีปังๆ 

           มหกรรมสินค้าไอทีคอมมาร์ต รอบกลางปี 2567 เริ่มแล้ว! ในคอนเซ็ปต์ “COMMART MEGATECH” ยกขบวนสินค้าไอที โปรแรง ช้อปคุ้ม พร้อมสัมผัสเทคโนโลยี AI PC ของจริงในงาน จัดเต็มสินค้าและโปรโมชั่นจากแบรนด์และร้านค้าชั้นนำ อาทิ ACE, AMD, Banana, E-Quip, EPSON, iStudio by SPVI, IT CITY, J.I.B, MSI, SPEED Computer, Studio7, ASUS, Ascenti, AppleSheep, BeWell, Ergotrend, LG, Mentagram, Remax 

พร้อมอัดฉีดแน่นๆ จากคอมมาร์ต ลุ้นเป็นผู้โชคดีรับคอมมาร์ต Digital wallet  10,000 บาท! แจกส่วนลดซื้อคอมใหม่แบบจุกๆ และ คูปองส่วนลด มูลค่า 100 / 300 / 500 แจกอีกเพียบพิเศษสุดๆ เฉพาะในงานคอมมาร์ต วันที่ 11 – 14  กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

          นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “สำหรับงานคอมมาร์ตในรอบกลางปี 2567 เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญ ที่เราจะได้เห็นการเติบโตของตลาดไอที จากการมาของเทคโนโลยี AI ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนเจนเทคโนโลยี และพร้อมจะกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลังนี้ให้เติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น บวกกับการมีสินค้าที่หลากหลายและ ครบครัน ที่นำมาจำหน่ายในงานครั้งนี้ ได้ทดลองสินค้า AI PC ของจริงและสินค้าอื่นๆ ทดสอบและเปรียบเทียบ จากแบรนด์ต่างๆ โปรโมชั่น ของแถม ส่วนลด ก่อนการตัดสินใจซื้อ ทั้งหมดนี้พบได้แค่ที่งานคอมมาร์ตเท่านั้น บมจ.เออาร์ไอพี ในฐานะผู้จัดงานได้เตรียมกิจกรรมและบริการไว้ให้กับแฟนมากมายๆ และพิเศษสุดๆ กับแคมเปญ แจกคอมมาร์ต Digital wallet 10,000.00  บาท แจกเลยไม่ต้องรอ อัดฉีดส่วนลดให้ได้ซื้อคอมใหม่แบบสุดคุ้ม และ Voucher คูปปองส่วนลดอีกมากมายที่เราจัดเตรียมไว้สำหรับๆ แฟนที่มาช้อปในงาน ซึ่งเชื่อว่างาน COMMART MEGATECH จะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดไอทีให้คึกคักได้อย่างดี”

        นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “เตรียมตัวมาพับกับสินค้าตัวใหม่ที่มาพร้อมความเป็น AI อาทิ โน้ตบุ๊ก จอคอมพิวเตอร์ ทีวี เราเตอร์ สมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์พกพาอื่น ๆ รองรับฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง AI เหล่านี้สามารถมาพบได้ที่งานคอมมาร์ตครั้งนี้ และงานนี้ยังจัดเต็มโปรโมชั่น ส่วนลด แจกกันฉ่ำๆ ตลอดงาน ประกอบด้วย

● คอมมาร์ต Big Bonus ช้อปครบ 3,000.- บาท ได้สิทธิ์ลุ้นโชค 2 ต่อ ต่อแรก ลุ้นจับรางวัล

เครื่องฟอกอากาศ ,จอคอมพิวเตอร์, เครื่องเล่นเกมพกพา และ การ์ดจอ ในงาน ต่อที่ 2 อัปโหลดใบเสร็จ ได้ลุ้น Apple HomePod mini 5 รางวัล

● คอมมาร์ต Digital wallet 10,000. -  บาท คอมมาร์ตช่วยจ่าย ซื้อคอมใหม่ได้ส่วนลดจุกๆ

● คอมมาร์ต On Top ช้อปครบ 50,000. - แลกคูปองส่วนลดเพิ่ม 500.- (เฉพาะวันพฤหัส - ศุกร์)

● คอมมาร์ตช่วยจ่ายค่าจอดรถ เพียงซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ตครบ 30,000. – รับสิทธิ์จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง

● คอมมาร์ตอยากแจก ร่วมสนุกกับกิจกรรมที่บูธคอมมาร์ต แจกคูปอง ส่วนลด และของพรีเมี่ยมฟรีทุกวัน

● คอมมาร์ต ร่วมกับ LINE MAN RIDE มอบส่วนลดสูงสุด 60% สำหรับผู้ที่เดินทางมางานคอมมาร์ต ด้วยบริการ LINE MAN RIDE ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์ เพียงกรอกโค้ดส่วนลด LMCOMMART ผ่านแอป LINE MAN

● คอมมาร์ต ร่วมกับ LALAMOVE มอบส่วนลด 50% สำหรับรถยนต์ และรถกระบะทุกประเภท ส่งของด่วนได้ในราคาพิเศษ เพียงกรอกโค้ด LALACOMMART และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับคูปองส่วนลดเพิ่มเติมได้ในงาน

           อย่าลืมแวะไปร่วมสนุกกับกิจกรรมที่บูธ COMMART กลาง เพียงสมัครสมาชิก ก็ได้ลุ้นรับของแจก ส่วนลดพิเศษมากมาย และถ่ายรูปกับจออัจฉริยะเก็บเป็นความทรงจำพิเศษสำหรับทุกคน ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นและดีลเด็ด เพียงเข้ากลุ่ม LINE OPEN CHAT อัปเดตโปรชั่นจากหน้างาน พร้อมรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิกเลย https://bit.ly/CommartOpenChat

          งาน COMMART MEGATECH ร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ไอทีชั้นนำ อาทิ ACE, AMD, Banana, E-Quip, EPSON, iStudio by SPVI, IT CITY, J.I.B, MSI, SPEED Computer, Studio7, ASUS, Ascenti, AppleSheep, BeWell, Ergotrend, LG, Mentagram, Remax และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ร่วมด้วย Media Partner ด้านการประชาสัมพันธ์ อาทิ Techhub, eLeader, Business+, Beartai, Extreme IT, it24hrs., Notebookspec, Overclockzone

          เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาช้อปสุดมันที่งาน COMMART MEGATECH  ระหว่างวันที่ 11-14 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เข้าชมฟรี! ตลอดทั้งงาน เดินทางสะดวกด้วย รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและกิจกรรม หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.commartThailand.com, www.facebook.com/commartThailand , Line: @Commart, และ twitter.com/Commart 


วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส

ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี

       มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์  และนางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อย มีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 398,380 บาท (สามแสนเก้าหมื่นแปดพันสามร้อยแปดสิบบาทถ้วน) เพื่อให้สตรีได้นำวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว อันเป็นการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน

โดยมี นางวรรณภา สุขคง รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวจุรีพร ภิบาลจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมในพิธี พร้อมกันนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชน ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567

      โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อย มีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ โดยมูลนิธิฯ มุ่งหวังในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างชีวิต ให้กับสตรีได้นำวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป  โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูนลำปาง เชียงราย และจังหวัดพิษณุโลก

     โดยตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีไปแล้ว 5 แห่ง จำนวน 32 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 620,299 บาท (หกแสนสองหมื่นสองร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน)

      ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต#

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมงานมหาบุญมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา

ร่วมงานมหาบุญมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ 

ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2567

      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ งานมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2567 ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ มหากุศล ร่วมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ทำบุญบริจาคชุดข้าวสารอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมได้ทำทานให้ผู้ยากไร้ ในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2567 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

      นอกจากนี้ สำหรับท่านที่ประสงค์ทำบุญทิ้งกระจาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ https://pttfny.net/newsh  ในปี 2567 นี้ ท่านสามารถร่วมทำบุญผ่านระบบออนไลน์ ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 67 เป็นต้นไป


      ประเพณีทิ้งกระจาด ถือได้ว่า เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมูลนิธิฯ ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกปีเป็นเวลาช้านานไม่ต่ำกว่าอายุการก่อตั้งมูลนิธิฯ กว่า 114 ปี และคาดว่าจะเป็นมูลนิธิแห่งแรกที่จัดงานทิ้งกระจาดอย่างเป็นทางการและเป็นกิจจะลักษณะ เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีผู้ใจบุญจะนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ มากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อทำบุญสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ พร้อมนำมอบองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งในปี 2567 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดแจกเครื่องอุปโภคบริโภค ในประเพณีทิ้งกระจาดครั้งอย่างยิ่งใหญ่ เต็มรูปแบบ ทั้ง 4 จังหวัด


         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอบุญบารมีองค์หลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปี ตลอดไป

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสารกิจกรรม และการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

พระราชทานเพลิงศพอดีตมือปราบหน้าหยก พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร อดีต ผช.อธิบดีกรมตำรวจ

พระราชทานเพลิงศพอดีตมือปราบหน้าหยก

พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร อดีต ผช.อธิบดีกรมตำรวจ


      นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร อดีต ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ฉายามือปราบหน้าหยก โดยมีพันเอกหญิง บุษบงทิพย์ สุวรรณวิเชียร (บุตรสาว) และ รตท.กิตติพล เสมเจริญ อดีตมือสืบสวน บก.น.ธน(สืบธน) ผู้ทำงานใกล้ชิด ให้การต้อนรับ ณ เมรุวัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร

งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร

        ขอเรียนเชิญร่วมพิธีในการพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ สุวรรณวิเชียร ม.ว.ม.,ป.ช.,ภ.ป.ร.๕ อดีต ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ฉายา "มือปราบหน้าหยก"ในวันอังคารที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ เมรุวัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ


วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิโครงการหลวง และ สวพส. จัดอบรมหลักสูตรนานาชาติ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมบนพื้นที่สูง

มูลนิธิโครงการหลวง และ สวพส. จัดอบรมหลักสูตรนานาชาติ

การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมบนพื้นที่สูง

     พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรนานาชาติ Mainstreaming Leaving No One Behind in Sustainable Highlands Development ณ ห้องประชุม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อ.เมือง จ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567


     การจัดอบรมหลักสูตรนานาชาติในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือจากมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมด้วยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) กระทรวงการต่างประเทศ และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 28 มิถุนายน 2567 โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจาก 11 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน กัมพูชา คีร์กีซสถาน สปป.ลาว เมียนมา เนปาล ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ติมอร์-เลสเต และประเทศไทย ที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้หลักการพัฒนาแบบโครงการหลวง การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาพื้นที่สูง และการพัฒนาที่ครอบคลุมกลุ่มคนด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง จังหวัดเชียงใหม่

      ตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษ โครงการหลวงซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแห่งแรกของประเทศ ได้มุ่งลดความเหลื่อมล้ำของชุมชนบนพื้นที่สูงที่อยู่ห่างไกล ทุรกันดาร และมีฐานะยากจน ให้ได้รับโอกาสโดยนำองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมไปพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้จากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์กว่า 300 ชนิด ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การต่อยอดภูมิปัญญาชนเผ่าเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ รวมทั้งการบูรณาการหน่วยงานในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นกับชุมชน  การพัฒนาแบบโครงการหลวงจึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง  ด้วยการสร้างโอกาสและความเสมอภาคให้กับชุมชนบนพื้นที่สูง ให้เข้าถึงความรู้เพื่อการพัฒนาตนเองและพัฒนาอาชีพ รวมทั้งการเสริมสร้างให้กลุ่มคนทั้งที่เป็นวัยทำงาน เยาวชน สตรี และผู้สูงอายุ ให้มีศักยภาพและบทบาทที่สมวัย

       สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานที่นำรูปแบบการพัฒนาแบบโครงการหลวงอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงของประเทศที่มีจำนวน 4,205 กลุ่มบ้าน ร่วมกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายการเรียนรู้ ในระยะปี พ.ศ.2566-2570 ที่ไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงที่ห่างไกล แต่ยังมุ่งมั่นที่จะขจัดความยากจนทุกรูปแบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ    

#LNOB #inclusiveness 


วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

"พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์" ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ

"พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์" ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ

        พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ให้ พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ (สมบูรณ์ รตนญาโณ ป.ธ.๓) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ มีราชทินนามว่า "พระวชิรรัตนรังษี"

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗

ประกาศ ณ วันที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นปีที่ ๙ ในรัชกาลปัจจุบัน

       สำหรับประประวัติโดยสังเขปของ "พระครูไพบูลย์รัดนาภรณ์" (สมบูรณ์ รตนญาโณ ป.ธ.๓) ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร ฉายา รตนถาโณ อายุ ๖๖ พรรษา ๓๖

วิทยฐานะ น.ธ. เอก, ป.ธ. ๓ วุฒิทางโลก ป.๔ สังกัตวัตหงส์รัตนาราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบันตำรงตำแหน่ง  ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐

                                     ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม

                                     ครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดหงส์รัตนาราม

       สถานะเดิม ชื่อ สมบูรณ์ นามสกุล บุญมา เกิดเมื่อวันที่ ๖ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เป็นบุตร นายเลี่ยง บุญมา และนางฝ้าย บุญมา 

อยู่บ้านเลขที่ ๓๑ หมู่ที่ ๘ บ้านหนองหว้า ตำบลหนองไฮ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ณ วัดสระกำแหงใหญ่ ตำบลกำแพง

อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

พระอุปัชฌาย์ คือ พระอธิการเครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่ จังวัดศรีสะเกษ

พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์สุข โกวีโท วัดสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ

พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระสมชาย วัดสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ

        สำหรับผลงานของท่านที่เด่นๆ คือ

- เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างพระมหาเจดีย์พุทธาคมรตนญาณมุนีศรีนครลำดวน วัดนาโนน ตำบลหนองไฮ อำภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ สูง ๙ ชั้น รวม ๖๙ เมตร กว้างบริเวณพื้นที่ ๑ ไร่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สิ้นงบประมาณการก่อสร้าง  ๑๑๕.๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยสิบห้าล้านบาทถ้วน)

- เฉพาะในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ช่วยเหลือสังคมและพระพุทธศาสนา สงเคราะห์ประชาชน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิเช่น

แจกทานให้ผู้ยากไร้ ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง รพ.สต. หนองไฮ ๗๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน)

มอบรถพยาบาลฉุกเฉิน ให้แก่ อบต.หนองไฮ ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาทถ้วน)

มอบทุนสร้างโรงพยาบาลนาคู ๔๐๐,๐๐๐ บาท (สี่แสนบาทถ้วน)

มอบเงินสร้างอุโบสถวัดหนองไฮ ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท (แปดล้านบาทถ้วน)

มอบเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รพ.อุทุมพรพิสัย ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน)

มอบทุนสนับสนุนการศึกษาวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)



วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เคพีไอ ย้ำความสัมพันธ์กับพันธมิตร คิวบีอี มุ่งเพิ่มยอดขายเจาะตลาดธุรกิจประกันภัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เอาใจผู้ใช้รถยนต์

เคพีไอ ย้ำความสัมพันธ์กับพันธมิตร คิวบีอี 

มุ่งเพิ่มยอดขายเจาะตลาดธุรกิจประกันภัย

พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เอาใจผู้ใช้รถยนต์

       เคพีไอ สร้างโอกาสเพิ่มรายได้ มุ่งเสริมนโยบายขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ จับมือพันธมิตรธุรกิจบุกส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ออกสู่ตลาดรถยนต์  จากการดำเนินงานที่ผ่านมา เคพีไอ มีนโยบายที่จะเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจประกันภัยให้เติบโตและสร้างยอดขายให้มากขึ้น



        นางสาวสุชาวดี แสงอนงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ QBE Automotive Protection หรือ คิวบีอี โดย มร.อัลเบิร์ท โชว์ (Mr. Albert Chow) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชีย (General Manager Asia) – QBE Automotive Protection แถลงข่าวความร่วมมือภายใต้โครงการ Automotive Protection ยกระดับความมั่นใจการให้บริการด้านประกันภัยสำหรับลูกค้ากลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสถาบันการเงินชั้นนำ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของคิวบีอี  ในการถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ทางคิวบีอีได้รับ สำหรับ A.M. Best Rating  ในระดับ “A Stable” และ S&P Rating ในระดับ “A+ Stable”  โดยมีรายได้ในปี 2566 อยู่ที่ 20,825 Million U$   คิวบีอี เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 1997 ในตลอดระยะเวลา 27 ปี ที่ดำเนินธุรกิจกว่า 30 ประเทศทั่วโลกและดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 20 ปี และอีก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย QBE Automotive Protection ได้ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของลูกค้ามากกว่า 8 ล้านคัน


           เคพีไอและคิวบีอี ดำเนินธุรกิจร่วมกันมากว่า 5 ปี โดยร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อเจาะกลุ่มตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง (Used Car Auto Loan) ผ่านกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในการทำแผนประกันภัยขยายความคุ้มครองอะไหล่รถยนต์ (Extended Warranty) คือ ประกันภัยที่คุ้มครองชิ้นส่วนอะไหล่เกี่ยวกับระบบกลไกและระบบไฟฟ้าของรถยนต์ที่มีปัญหาจากการใช้งานตามปกติเทียบเท่าการรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งในตลาดส่วนใหญ่ของกลุ่มรถญี่ปุ่นจะรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตอยู่ที่ 3 ปี และสำหรับรถยุโรปจะรับประกันคุณภาพเฉลี่ยที่ 5 ปี  หลังจากหมดระยะรับประกันรถยนต์เสียต้องซ่อม ลูกค้ามีข้อกังวลเกี่ยวกับค่าซ่อมรถยนต์  โดยแผนประกันภัยขยายความคุ้มครองอะไหล่รถยนต์ (Extended Warranty) ของเคพีไอ ทำให้ลูกค้าขับขี่อุ่นใจสบายกระเป๋าด้วยประกันภัยนี้
           จุดเด่นความคุ้มครองประกันอะไหล่รถยนต์:
- คุ้มครองการขยายเวลารับประกันอะไหล่รถยนต์นานสุงสุดถึง 3 ปี
- รับอายุรถสูงสุดไม่เกิน 15 ปี หรือ 250,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่ต้องตรวจสภาพ*
- คุ้มครองอะไหล่รถยนต์สูงสุดถึง 13 กลุ่มหลัก ปรับแต่งแผนได้ตามความต้องการ
- สามารถนำรถเข้าซ่อมได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์มาตรฐานทั่วประเทศ รับประกันคุณภาพอะไหล่แท้ 100%
- เคลมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งโดยมูลค่าเคลมรวมสูงสุดตามจำนวนเงินเอาประกันภัยลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่าย
- ขับขี่อุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม.
ข้อยกเว้น* ไม่คุ้มครองรถยนต์กรณีดัดแปลงสภาพและไม่ครอบคลุมอุปกรณ์ตกแต่ง,ชิ้นส่วนอะไหล่สิ้นเปลืองและของเหลว


            มร.อัลเบิร์ท โชว์ กล่าวว่า “คิวบีอี ยินดีอย่างยิ่งในความสำเร็จที่ได้ร่วมมือกับเคพีไอและสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศไทยภายใต้ผลิตภัณฑ์ Extended Warranty คิวบีอีกับเคพีไอ ยังมองโอกาสในการเติบโตในตลาดธุรกิจประกันภัยนอกเหนือจากประกันคุ้มครองอะไหล่รถยนต์ ที่ให้ลูกค้าอุ่นใจในการขับขี่ หมดข้อกังวลค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถยนต์ในกรณีรถเสียแล้ว เราเล็งเห็นปัญหาของกลุ่มสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หากกรณีที่รถยนต์ของลูกค้าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสียหายหนัก ประกันภัยรถยนต์จะคุ้มครองที่ทุนประกันสูงสุดไม่เกิน 80% ของมูลค่ารถยนต์ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นภาระหนี้ส่วนต่างของกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์  รวมถึงส่งผลกระทบให้เกิดหนี้เสียกับกลุ่มสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เช่นกัน เราจึงร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองสินเชื่อเพื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ (Auto Loan Protection Insurance) เพื่อมาปิดช่องว่างในการให้ความคุ้มครองภาระหนี้ส่วนต่างเช่าซื้อรถยนต์ของลูกค้าได้และช่วยลดมูลค่าหนี้เสียของกลุ่มสถาบันการเงินต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายในการให้มูลค่าที่เป็นธรรมและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่" 
          นางสาวสุชาวดี แสงอนงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่เคพีไอกล่าวเสริมว่า “ธุรกิจประกันภัยจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ที่ลูกค้ามีความต้องการที่มีความหลากหลายมากขึ้นอันเกิดมาจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจากภัยธรรมชาติ ปัญหาด้านสุขภาพ หรือการเปลี่ยนแปลงในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น เราจึงมองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจอยู่มากในตลาดประกันภัย นโยบายที่เคพีไอให้ความสำคัญคือการพัฒนาเพื่อเพิ่มยอดขายร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งอย่างคิวบีอี หรือพันธมิตรทุกๆ รายที่เราร่วมมืออยู่ในปัจจุบัน หรือการสนับสนุนนโยบายในการสรรหาพันธมิตรรายใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาไปสู่ฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ในตลาดให้มากขึ้น  ซึ่งประสบการณ์กว่า 20 ปี ของคิวบีอี จึงมาช่วยเสริมให้เคพีไอ ของเรายิ่งแข็งแกร่งขึ้น โดยเรามีแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองสินเชื่อเพื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ (Auto Loan Protection Insurance) ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดภายในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้ โดยจะมุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินที่มีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก โดยจะคุ้มครองสำหรับรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total loss) รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้หรือกรณีรถยนต์ถูกชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์ โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่สถาบันการเงิน ตามมูลค่าเช่าซื้อที่เหลืออยู่ และได้ตั้งเป้าหมายที่จะเดินหน้าเพิ่มยอดขายร่วมกับคิวบีอี ให้เติบโตถึง 30% ภายใน 5 ปีข้างหน้า ”


        ปี 2567 นับเป็นก้าวสำคัญของ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของผู้นำองค์กร นางสาวสุชาวดี แสงอนงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ จากที่บริษัท ได้ทำการ Refresh Brand เมื่อต้นปี 2567 ผ่านมา เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับยุคสมัย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนองค์กรให้สำเร็จ เป็นไปตามวิสัยทัศน์  “Ensure Your Future For A Better Journey มุ่งมั่นเพื่ออนาคตของคุณไปสู่เส้นทางที่ดีว่า” ที่สอดคล้องกับพันธกิจองค์กรทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ TRUST (ความไว้วางใจ),  SUSTAINABILITY (ความยั่งยืน), SIMPLIFIED SERVICE (การบริการ),  PARTNERS (พันธมิตรธุรกิจ), EMPLOYEES (ทีมงาน), และ INNOVATION (นวัตกรรม) พร้อมชูสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care ดูแลทุกความไว้ใจ” ดูแลไปถึงทุกกลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมที่มีความต้องการที่หลากหลายมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไปในยุคปัจจุบัน
       “จากที่บริษัทได้มีแผนในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ KPI ทำให้เราได้ทบทวนกลยุทธ์การดำเนินองค์กรและกำหนดวิสัยทัศน์พันธกิจใหม่ขององค์กร โดยมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจว่า Ensure Your Future For A Better Journey โดยเราจะให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการทำงานอย่างมีความใส่ใจในทุกภาคส่วน ทั้งต่อลูกค้า กลุ่มตัวแทนนายหน้าและกลุ่มพันธมิตรธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาความสามารถและศักยภาพของพนักงาน พร้อมกับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”


        บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ ถือหุ้นโดยธนาคารกรุงไทย 45% เผยข้อมูลผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 13,911 ล้านบาท รายได้ในส่วนของเบี้ยประกันรับรวมที่ 1,143 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ในไตรมาสแรก คิดเป็น 13% โดยมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 50.09% ประกันรถยนต์ 38.58% ประกันอัคคีภัย 11.09%  และประกันภัยทางทะเล 0.24% มีกำไรสุทธิที่ 132 ล้านบาท  ข้อมูลอ้างอิงสรุป ณ วันที่ 31 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 
โดยปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 5,455 ล้านบาท เติบโตขึ้นคิดเป็น 5% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา และในอีก 5 ปีข้างหน้า ในปี 2570 บริษัทฯ คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตถึง 7,000 ล้านบาท
         เคพีไอ มุ่งพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จสู่วิสัยทัศน์ใหม่ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ตอกย้ำสโลแกน “Your Trust, Our Care”

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ นำนักธุรกิจพบปะจับคู่กระตุ

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ   นำนักธุรกิจพบปะจับคู่กระตุ้นการค้า...